Loop Nature :เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน
6 วัน 5 คืน สำหรับ สว ผู้ใหญ่ และทุกวัย

แพ็คเกจท่องเที่ยวสุดพิเศษ จาก JC Tour นำท่านเปิดประสบการณ์เหนือระดับ สัมผัสเสน่ห์แห่งธรรมชาติ และวัฒนธรรมของภาคเหนือ ในเส้นทาง เชียงใหม่ – ปาย – บ้านรักไทย – แม่ฮ่องสอน – ดอยอินทนนท์ และจุดชมวิว ที่งดงามอีกมากมาย ทริปนี้ออกแบบมาเพื่อ ให้ทุกวัยได้ดื่มด่ำกับความงาม ของธรรมชาติอย่างเต็มที่ พร้อมบริการระดับ Upper Class ที่รับประกันความสะดวกสบาย ปลอดภัย และความประทับใจทุกย่างก้าว

หากคุณเป็นผู้ที่ รักการเดินทาง และต้องการสัมผัสมุมมองใหม่ ๆ ของธรรมชาติ ที่น้อยคนจะได้พบเห็น นี่คือโอกาส ที่จะเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริง สัมผัสทัศนียภาพ ที่สวยงามจับใจ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ของขุนเขา หมู่บ้านกลางหุบเขา และเส้นทางสายหมอก ที่ตรึงตาตรึงใจ ทุกกิจกรรม ถูกออกแบบมา เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมสนุก ไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่น นักเดินทางสายชิล หรือผู้ใหญ่ที่อยากเปิดโลกกว้าง

JC Tour การันตีความพิเศษของทริปนี้ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีที่ไหนเหมือน ทุกสถานที่ ทุกประสบการณ์ คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ทุกคนได้พบกับความสุข ความทรงจำอันล้ำค่า และความประทับใจที่ไม่มีวันลืม ก่อนตัดสินใจ ลองชมภาพไฮไลต์ และรายละเอียดเพิ่มเติม แล้วคุณจะรู้ว่า ทริปนี้คือคำตอบ ของการเดินทางในฝันของคุณ

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

ดอยอินทนนท์:

พิชิตยอดดอยอินทนนท์: จุดสูงสุดของสยามที่งดงามเกินบรรยาย

ดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 2,565 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไม่ใช่เพียงแค่สถานที่ ที่สามารถอวดได้ว่า "สูงที่สุด" แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทาง ที่งดงามเกินจะบรรยาย ความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ ไม่เพียงแค่สมบูรณ์ แต่ยังคงความดิบเถื่อน ในแบบที่ไม่มีการปรุงแต่ง อากาศบริสุทธิ์ เย็นสดชื่นสุดขั้ว ไม่ว่าจะฤดูไหน ก็ไม่เคยเกิน 10 องศาเซลเซียส และในฤดูหนาว อุณหภูมิสามารถลดลง จนติดลบ สร้างบรรยากาศที่เหมือน หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยหมอกบาง ๆ ปกคลุมยอดเขา และลมหนาว ที่สัมผัสได้ถึงความสดชื่น ในทุกลมหายใจ

เหนือสิ่งอื่นใด ความงดงามของ เจดีย์คู่พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ยืนตระหง่านคู่กัน ท่ามกลางสวนดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นดอกพญาเสือโคร่ง ที่ผลิบานในฤดูหนาว หรือดอกไม้หลากสีสัน ที่แต่งแต้มความงดงาม เหมือนสวนสวรรค์บนดิน การเดินเล่น ท่ามกลางเส้นทางศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน จะพาคุณผ่านป่าดึกดำบรรพ์ ที่เต็มไปด้วยมอส และเฟิร์นเขียวขจี ให้คุณได้สัมผัสกับ ความสงบและความงาม ของธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่นี่ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือประสบการณ์ ที่คุณจะไม่มีวันลืม

น้ำตกวชิราธาร

น้ำตกวิชรธาร: ความงามที่สะกดทุกสายตา

น้ำตกวิชราธาร แม้จะเป็นน้ำตกชั้นเดียว แต่กลับได้รับการขนานนามว่า เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุด ในประเทศไทย ด้วยสายน้ำที่แผ่กว้าง ตกลงมาจากหน้าผา สูงตระหง่าน สู่แอ่งน้ำเบื้องล่างอย่างสง่างาม เมื่อละอองน้ำ กระทบกับแสงแดดอ่อน ๆ จะเกิดปรากฏการณ์ สายรุ้งระยิบระยับ เพิ่มความงดงาม ที่ชวนตะลึง ให้กับผู้มาเยือน ท่ามกลางเสียงน้ำกระทบหิน ที่ดังก้องอย่างทรงพลัง ทำให้ทุกย่างก้าว ที่เข้าใกล้ ยิ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกสดชื่น ที่ยากจะบรรยาย

บรรยากาศรอบ ๆ น้ำตกโอบล้อม ด้วยผืนป่าสมบูรณ์ ในระดับ Agent Forest ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี และความชุ่มชื้นของธรรมชาติ อย่างแท้จริง ความพิเศษ อยู่ที่อากาศบริสุทธิ์ ที่อุดมไปด้วย อิออนประจุลบ (Negative Ions) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ผ่านการสูบฉีดโดยหัวใจ ทำให้ทันทีที่คุณก้าวเข้าสู่พื้นที่น้ำตก จะสัมผัสได้ ถึงความสดชื่น ลึกถึงภายใน ราวกับร่างกายได้รับการชาร์จพลัง อย่างเต็มเปี่ยม น้ำตกวิชราธาร ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง ของนักเดินทาง แต่คือสถานที่ ที่มอบประสบการณ์การฟื้นฟูร่างกาย และจิตใจ ในแบบที่ ธรรมชาติเท่านั้น ที่ให้ได้

ดอยปุย

ดอยปุย: เส้นทางสู่ขุนเขาแห่งสีสันและวัฒนธรรม

การเดินทางขึ้นสู่ ดอยปุย เป็นประสบการณ์ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ และวัฒนธรรมตลอดเส้นทาง รถจะค่อย ๆ ไต่ระดับสูง ผ่านผืนป่าดิบเขียวขจี ที่อุดมสมบูรณ์ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ เรียงรายสวยงาม อากาศเย็นสดชื่น จนคุณสามารถเปิดหน้าต่างรถ เพื่อสูดกลิ่นไอธรรมชาติ และสัมผัสกับลมหนาว ที่พัดผ่านได้อย่างเต็มปอด ความเย็นสบาย ที่แทรกซึมเข้ามา ในทุกลมหายใจ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และสดชื่นตลอดการเดินทาง

เมื่อถึงจุดสูงสุดของดอยปุย คุณจะได้พบกับ สวนดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งอย่างงดงาม หลากสีสัน ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ พญาเสือโคร่ง หรือดอกไม้เมืองหนาวอื่น ๆ ที่แต่งแต้มพื้นที่ ให้สดใสราวกับภาพวาด นอกจากนี้ยังมี หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ที่ให้คุณได้สัมผัส วิถีชีวิตดั้งเดิม ของชุมชนท้องถิ่น ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง ชมงานหัตถกรรมฝีมือ และเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ดอยปุยจึง ไม่ใช่แค่จุดหมายสำหรับผู้รักธรรมชาติ แต่ยังเป็นสถานที่ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และเสน่ห์ ที่รอให้คุณมาค้นพบ ด้วยตัวเอง

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์: สวนดอกไม้แห่งความงดงามบนยอดดอย

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ คือพระราชวังอันงดงาม ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสูง เหนือเมืองเชียงใหม่ เป็นสถานที่ประทับแรม ของพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อเสด็จเยือนภาคเหนือ ความโดดเด่นของพระตำหนักแห่งนี้ คือสวนดอกไม้เมืองหนาว ที่ประดับประดาอย่างงดงามที่สุด ในประเทศไทย ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งในและต่างประเทศ ผลิบานอย่างเต็มพื้นที่ สร้างสีสันสดใส ตัดกับฉากหลังของทิวเขา และป่าเขียวขจี ความงดงามของพระราชวัง เริ่มต้นตั้งแต่ทางเข้า ที่คุณจะได้เดินผ่าน ซุ้มไม้ดอกหอมหวานตลอดเส้นทาง พร้อมสัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติ และความสงบเงียบ ที่ชวนให้รู้สึกสดชื่น ในทุกย่างก้าว

ภายในพระตำหนัก แบ่งออกเป็นหลายโซน ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และเอกลักษณ์ เช่น สวนกุหลาบหลวง ที่อวดโฉม ด้วยกุหลาบเมืองหนาว หลากสีสัน, แปลงดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งตลอดปี และบ่อน้ำพุ ที่สะท้อนเงา ของพระตำหนักอย่างงดงาม ราวกับภาพวาด ทุกพื้นที่ ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สอดคล้อง กับภูมิประเทศตามธรรมชาติ ทำให้การเดินชมพระตำหนัก ไม่เพียงแค่สัมผัสความงามทางสายตา แต่ยังเป็นการซึมซับ ความสงบร่มรื่น และความภาคภูมิใจ ในมรดกทางวัฒนธรรมของไทย ที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จึงเป็นจุดหมาย ที่ไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่รักในความงดงาม ของดอกไม้ และความสงบของธรรมชาติ อย่างแท้จริง

วัดดอยสุเทพ (มาทุกครั้ง Happy ทุกครั้ง)

พระธาตุดอยสุเทพ: ศิลปะล้านนาสุดอลังการบนยอดดอย

พระธาตุดอยสุเทพ หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญ ของเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าใครมาเยือน ก็ต้องแวะสักการะ ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร บนยอดดอยสุเทพ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของศิลปะล้านนา ระดับสูงอย่างแท้จริง สถาปัตยกรรมภายในวัด เต็มไปด้วยความวิจิตรตระการตา ไม่ว่าจะเป็น พระเจดีย์สีทองอร่าม ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้คนเคารพนับถือ และเป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ทุกองค์ประกอบของวัด ไม่ว่าจะเป็น ลวดลายแกะสลักตามซุ้มประตู เสา หรือหลังคา ต่างสะท้อนถึงความงดงาม ของศิลปะแบบล้านนาอย่างลงตัว

นอกจากความศักดิ์สิทธิ์ และความงดงามทางศิลปกรรมแล้ว บริเวณโดยรอบของวัด ยังมี จุดชมวิวเมืองเชียงใหม่ ที่สวยงามแบบ 360 องศา ให้คุณได้มองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ ที่ทอดยาวสุดสายตา โดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ หรือยามเย็น แสงแดดอ่อน ๆ ที่แต้มสีทองบนท้องฟ้า จะยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับวิวทิวทัศน์เบื้องล่าง ได้อย่างน่าประทับใจ การได้มายืนรับลมเย็นบนยอดดอย พร้อมชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามรอบด้าน จะทำให้คุณรู้สึก ถึงความสงบ และความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่ผสานกับศิลปะและศรัทธา ได้อย่างกลมกลืน นี่แหละคือมนต์เสน่ห์ ของพระธาตุดอยสุเทพ ที่ทำให้ทุกคน ต้องมาเยือนสักครั้ง ในชีวิต.

จุดชมวิวหยุนไหล-เหตุผลที่ไม่อยากมา?..

จุดชมวิวหยุนไหล: ความงดงามที่เกินคำบรรยาย ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง

การเดินทางสู่ จุดชมวิวหยุนไหล อาจฟังดูท้าทายสำหรับใครหลายคน ด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยว ถนนแคบ และชัน ในบางช่วง จนบางครั้งต้องวิ่งได้เพียงเลนเดียว ห้ามสวนกัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะหากคุณเดินทางกับ เจซีทัวร์ ทุกความยากลำบาก จะกลายเป็นเพียงแค่การผจญภัยเล็ก ๆ เท่านั้น ด้วยความ Keen (เชี่ยวชาญ) ของคนขับ ที่รู้จักพื้นที่อย่างทะลุปรุโปร่ง ทำให้การเดินทาง เต็มไปด้วยความปลอดภัย และสะดวกสบาย 100% คุณเพียงแค่นั่งพักผ่อน ชมวิวสองข้างทาง และปล่อยให้ทีมงานมืออาชีพ ดูแลทุกอย่าง

หลายคนอาจคิดว่า หยุนไหล เป็นเพียงแค่ “จุดชมวิวที่สวยมากแห่งหนึ่ง” แต่ความจริงแล้ว มันคือจุดชมวิว ที่สวยที่สุดในชีวิต ของคุณต่างหาก ทันทีที่คุณไปถึง ความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง จะหายไปในพริบตา เมื่อได้เห็นทะเลหมอก ที่ลอยละล่องเหนือขุนเขาสลับซับซ้อน ราวกับคุณยืนอยู่เหนือก้อนเมฆ ท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีในยามเช้า พร้อมแสงแดดอ่อน ๆ ที่แต้มแต่งขอบฟ้าให้เป็นสีทอง สะท้อนกับทะเลหมอกเบื้องล่าง ทำให้ภาพตรงหน้านั้น งดงามเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ เจซีทัวร์จะไม่ยอมให้คุณพลาด ประสบการณ์สุดประทับใจนี้เด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่แค่จุดชมวิว แต่คือความทรงจำ ที่จะอยู่กับคุณตลอดไป

โขกู่โส้... สะพานสตราดิวาเรี่ยน.

สะพานไม้ไผ่โขกู้โส่: “สตราดิวาเรี่ยน” แห่งสะพานไม้ไผ่ของเมืองปาย

ถ้า Antonio Stradivari คือผู้สร้างไวโอลินที่เสียงไพเราะและงดงามที่สุดในโลก จนไวโอลินของเขาถูกขนานนามว่า Stradivarian ในแง่ของสะพานไม้ไผ่ ก็มีหนึ่งเดียวในโลกที่คู่ควรกับชื่อเรียกแบบนั้น นั่นคือ สะพานไม้ไผ่โขกู้โส่ แห่งเมืองปาย สะพานไม้ไผ่อันงดงามที่ทอดยาวเป็นกิโลเมตร ข้ามผ่านทุ่งนาสีเขียวขจีไปอย่างสง่างาม พร้อมแยกแขนงเส้นทางเล็ก ๆ นำไปสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ความพิเศษของสะพานแห่งนี้ไม่ใช่แค่ความยาวหรือการออกแบบ แต่คือ “ความรู้สึก” ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณได้เดินเหยียบลงไปบนไม้ไผ่ที่เรียงตัวกันอย่างพิถีพิถัน

สะพานไม้ไผ่โขกู้โส่เปรียบเสมือนต้นแบบของสะพานไม้ไผ่ที่ถูกนำไปเลียนแบบทั่วโลก แต่ไม่ว่าจะสร้างขึ้นใหม่ที่ไหน จะพยายามทุ่มเทแค่ไหน ก็ไม่สามารถถ่ายทอด “ความคลาสสิก” และความสมบูรณ์แบบที่สะพานแห่งนี้มอบให้ได้ ความงดงามไม่ได้มาจากแค่โครงสร้าง แต่คือการผสมผสานระหว่าง ธรรมชาติ ศิลปะ และจิตวิญญาณท้องถิ่น ที่แทรกซึมอยู่ในทุกท่อนไม้ไผ่และทุกก้าวย่างบนสะพาน เมื่อเดินอยู่บนสะพานนี้ คุณจะรู้สึกเหมือนได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติรอบตัว และสัมผัสถึงความสงบในจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง ถ้าจะเรียกมันว่า “สะพานไม้ไผ่สตราดิวาเรี่ยน” ก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะมันไม่ใช่แค่สะพาน แต่คือผลงานศิลปะที่มีชีวิต

ของที่คู่กัน ในถ้ำลอด

ถ้ำน้ำลอด ปางมะผ้า: บทบรรยายแห่งกาลเวลา และความมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา

เมื่อย้อนกลับไป กว่า 50 ปีก่อน ประเทศไทยแทบไม่รู้จัก กับคำว่า “การท่องเที่ยว” แต่ใครจะเชื่อว่า ครูสอนศาสนา ที่เดินทางมา เผยแผ่ความเชื่อในแดนไกล จะเป็นผู้เปิดประตู สู่สถานที่มหัศจรรย์แห่งหนึ่ง ในภาคเหนือ — ถ้ำน้ำลอด ปางมะผ้า สถานที่ซ่อนเร้นใต้ขุนเขา ที่ไม่เพียงแต่เป็นถ้ำธรรมดา แต่ยังเต็มไปด้วย เรื่องราวทางธรณีวิทยา ที่น่าทึ่งเหนือจินตนาการ

หนึ่งในความน่ามหัศจรรย์ของถ้ำนี้ คือ “หินงอก–หินย้อย” คู่กันตลอดกาล เสมือนคู่รัก ที่ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หินย้อย ที่หยดน้ำค่อย ๆ ทิ้งร่องรอยลงมาอย่างอ่อนโยน ส่วนหินงอกก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นจากพื้นดิน ใต้หยดน้ำเหล่านั้น ทั้งสองค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้กัน ทีละมิลลิเมตร... จนสุดท้าย หลังจากกว่า 10,000 ปี พวกมันได้มาบรรจบกันกลางอากาศ อย่างสมบูรณ์แบบ ในถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ ที่หายากยิ่งในโลก ความงดงามและความละเอียดอ่อน ของธรรมชาติ ได้บันทึกเรื่องราวแห่งกาลเวลา ไว้ในแต่ละชั้น ของหินงอกหินย้อยเหล่านี้

นอกจากความตื่นตาตื่นใจ จากหินงอกหินย้อยแล้ว ถ้ำน้ำลอด ปางมะผ้า ยังเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ที่ค้นพบหลักฐาน ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เช่น โลงศพไม้โบราณ ที่แขวนอยู่บนหน้าผา ซึ่งเล่าเรื่องราวของมนุษย์ ยุคก่อนการบันทึกประวัติศาสตร์ ราวกับย้อนไป ในโลกยุคดึกดำบรรพ์ (The Land Before Time) การมาเยือนที่นี่ ไม่ใช่เพียงเพื่อ สัมผัสความงดงามทางธรรมชาติ แต่ยังได้เรียนรู้ ถึงต้นกำเนิดของโลก และความเป็นมาของมนุษยชาติ ในแบบที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น และเต็มไปด้วยความรู้ ที่ล้ำค่า

บ้านจ๋าโบ๋ Double Consume

บ้านจ่าโบ๋: เสน่ห์แห่งความเรียบง่ายที่ทำให้หัวใจเป็นสุข

ความเรียบง่าย คือความงดงามที่แท้จริง และไม่มีที่ไหน สะท้อนสิ่งนี้ได้ชัดเจน เท่ากับ บ้านจ่าโบ๋ หมู่บ้านเล็ก ๆ บนเนินเขาสูง ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และวิถีชีวิตที่สงบเงียบ ที่นี่เป็นบ้าน ของชาวไทยภูเขาเผ่าลาหู่ รวมถึงชาวล้านนา และไทยใหญ่ ที่ใช้ชีวิตแบบง่าย ๆ กลมกลืนกับธรรมชาติ ความสดชื่นของอากาศ ที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และทิวเขาสลับซับซ้อน ที่ทอดยาวสุดสายตา ทำให้ทุกลมหายใจ ที่ได้สัมผัสที่นี่ เต็มไปด้วยความสุข และความสงบในใจ

จุดไฮไลท์ ที่ไม่ควรพลาดคือ การได้นั่งห้อยขาชิล ๆ ที่ ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านจ่าโบ๋ ร้านเล็ก ๆ ที่มีวิวหลักล้านเป็นฉากหลัง ลองจินตนาการ ถึงการนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ ที่แสนอร่อย พร้อมกับดื่มด่ำทิวทัศน์ภูเขา และสายหมอก ที่ล่องลอยอย่างเงียบสงบ ความสุขที่ได้จากการ “บริโภคธรรมชาติ” ไปพร้อมกับอาหารแสนอร่อยนี้ คือความประทับใจ ที่คุณจะไม่มีวันลืม ทริปนี้ไม่เพียงแต่นำคุณ มาสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่งดงาม แต่ยังพาคุณมา “Get” ความสุขง่าย ๆ จากชีวิตเรียบง่าย ของผู้คนที่นี่ ซึ่งอาจกลายเป็น แรงบันดาลใจสำคัญ ในหัวใจของคุณตลอดไป

หมู่บ้านสันติชล ปาย...

หมู่บ้านสันติชล: เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมยูนนานที่คุณไม่มีสิทธิ Say No

ว่ากันว่า “ผู้อพยพ” มักจะก้าวหน้า กว่าผู้อยู่อาศัยเดิม เพราะความมุ่งมั่น ขยัน และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ซึ่งเรื่องนี้ พิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ที่ หมู่บ้านสันติชล หมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวจีนยูนนาน ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ในประเทศไทย ที่นี่ ไม่เพียงแค่เป็นหมู่บ้านธรรมดา แต่ได้พัฒนาเป็น หมู่บ้านวัฒนธรรม ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ ของชาวยูนนาน ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ บ้านดินสีส้ม ที่สร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ ไปจนถึง ร้านน้ำชาแบบดั้งเดิม ที่อบอวลไปด้วย กลิ่นหอมละมุนของชา และ ร้านอาหารจีนยูนนาน ที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับรสชาติแท้ ๆ เช่น ขาหมูยูนนาน บะหมี่ทำมือ และชาอู่หลงอันเลื่องชื่อ

หมู่บ้านแห่งนี้ ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางย้อนเวลา ไปสัมผัสกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมที่สืบทอดมา หลายชั่วอายุคน การได้เดินเล่น ท่ามกลางบ้านดินสีอบอุ่น ลิ้มรสชาอุ่น ๆ พร้อมชมวิวภูเขา และพูดคุยกับผู้คน ที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี คือประสบการณ์ที่ เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ทริปนี้ คุณไม่มีสิทธิ Say No เพราะ เจซีทัวร์ จะไม่ยอมให้คุณพลาด โอกาสในการสัมผัสสิ่งดี ๆ ที่จะทำให้คุณ “ยิ้มด้วยความสุข” อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่มันคือเรื่องราว ที่จะตราตรึงในหัวใจ ของคุณตลอดไป.

อย่าไปผิดที่โดยเด็ดขาด - แช่ออนเซ็นน้ำพุร้อนท่าไทร

น้ำพุร้อนท่าไทร: ออนเซนธรรมชาติกลางหุบเขาแห่งเมืองปาย

ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอันเงียบสงบ ของพื้นที่ราบสูงแห่งเมืองปาย น้ำพุร้อนท่าไทร คือขุมทรัพย์ทางธรรมชาติ ที่มอบความสุข และประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างแท้จริง ที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งน้ำพุร้อนธรรมดา แต่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยลักษณะ ธารน้ำตกน้ำแร่ ที่ไหลลงมาตลอดเวลา ทำให้น้ำที่นี่ ใสสะอาดบริสุทธิ์อย่างน่าทึ่ง ราวกับธรรมชาติ ได้ออกแบบระบบการฟอก กรองด้วยตัวเอง อย่างสมบูรณ์แบบ

น้ำแร่ที่นี่ มีอุณหภูมิอยู่ในระดับ 50-60 องศาเซลเซียส ซึ่งพอดีสำหรับ การแช่ตัวแบบออนเซน ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และบำบัดความเหนื่อยล้า ได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญคือ ความมั่นใจในความสะอาด ของธารน้ำแร่ ที่ถูกเปลี่ยนถ่ายอยู่เสมอ ทำให้คุณสามารถแช่น้ำ ได้อย่างสบายใจและปลอดภัย นี่จึงเป็นจุดแช่น้ำแร่ยอดนิยม ในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวยุโรป ที่มาเยือนเมืองปาย เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่การแช่น้ำ แต่คือการฟื้นฟูทั้งร่างกาย และจิตใจ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ อันแสนบริสุทธิ์

“อย่าไปผิดที่” เพราะที่นี่คือ แหล่งออนเซนธรรมชาติที่ดีที่สุด ในเมืองปาย ที่คุณไม่ควรพลาด

สะพานไม้ไผ่ ซูต้องเป้..

สะพานบุญ: สะพานไม้ไผ่แห่งศรัทธาที่สร้างได้มากกว่าความสุขทางจิตใจ

ท่ามกลางทุ่งนา กว้างสุดสายตา แม่น้ำ ลำห้วย และลำคลอง ที่ไหลรินผ่านผืนแผ่นดินสีเขียวขจี มีสะพานไม้ไผ่เรียบง่าย ทอดยาวข้ามผ่านธรรมชาติอันงดงาม สู่เนินเขาสูง ที่ประดิษฐาน วัดศักดิ์สิทธิ์ แห่งหนึ่ง แต่ความพิเศษของสะพานนี้ ไม่ได้อยู่แค่ในความงามของทิวทัศน์ หรือการออกแบบ ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ หากแต่อยู่ในเรื่องราวของ “ศรัทธา” และเจตจำนง ในการ “สร้างบุญ” ที่เป็นจุดเริ่มต้น ของทุกสิ่ง

สะพานไม้ไผ่แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ อันบริสุทธิ์ของชาวบ้าน ที่ต้องการอำนวยความสะดวก ให้พระสงฆ์ สามารถเดินทางข้ามทุ่งนา มาบิณฑบาตรในหมู่บ้าน ได้ง่ายขึ้น ความเชื่อที่ว่า “พระอาจไม่จำเป็นต้องรับ แต่ชาวบ้าน จำเป็นต้องสร้างบุญ” กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญ ในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ แต่ใครจะคาดคิดว่า เพียงแค่ “สร้างเพื่อสร้างบุญ” จะนำพาความเจริญมาอย่างมหาศาล สะพานแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็น เส้นทางของพระสงฆ์ แต่ยังกลายเป็น แหล่งท่องเที่ยว ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศ เข้ามาเยี่ยมชม สร้างรายได้ และโอกาสทางเศรษฐกิจ ให้กับชุมชนโดยรอบ อย่างเกินคาด

ไม่ว่าจะเป็นด้วย แรงบุญกุศล หรือพลังศรัทธา ที่ซ่อนอยู่ในโครงสร้างไม้ไผ่ อันเรียบง่ายนี้ สะพานบุญได้พิสูจน์ว่า ความตั้งใจดีเพียงเล็กน้อย ของมนุษย์ สามารถก่อเกิดผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อสองฝั่ง ของทุ่งนา แต่คือการเชื่อมต่อ จิตใจ ศรัทธา และความสุข ของผู้คน ในทุกก้าวที่เดินข้าม ผ่านสะพานแห่งนี้

วัดจองคำ จองกลาง...

วัดจองคำ & วัดจองกลาง: สองศิลปะ สองวัฒนธรรม แต่หนึ่งเดียวในจิตวิญญาณ

เรื่องของศาสนา อาจถูกมองว่า เป็นเรื่องที่ "ไม่สนุก" สำหรับบางคน แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มันคือเรื่องที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะศาสนา ไม่ใช่แค่คำสอน แต่เต็มไปด้วยปริศนา เรื่องราวที่ซ่อนเร้น และศิลปะ ที่สะท้อนถึงความคิด ความเชื่อ และความลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ อย่างน่าทึ่ง

หนึ่งในตัวอย่าง ที่ชัดเจนที่สุดคือ วัดจองคำ และ วัดจองกลาง สองวัดที่ตั้งอยู่เคียงข้างกัน แต่ถ้าคิดว่าเป็นวัดเดียวกันก็ "ผิดถนัด" เพราะทั้งสองวัด เป็นตัวแทนของ สองวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน วัดจองคำ โดดเด่นด้วยศิลปะแบบไทยใหญ่ ที่เปี่ยมด้วยความอ่อนช้อย และสีสันสดใส ส่วน วัดจองกลาง สะท้อนเสน่ห์ของศิลปะแบบล้านนา และพม่า ที่เต็มไปด้วยความงามอันสงบ และความละเอียดอ่อน ในทุกองค์ประกอบ ทั้งสองวัดเหมือนจะ "ประชัน" ผ่านความงดงาม ทางสถาปัตยกรรม แต่เบื้องหลังนั้น กลับแฝงไว้ด้วย บทเรียนสำคัญของศาสนา นั่นคือการไม่ยึดติด กับความแตกต่างเล็กน้อย แต่กลับใช้ความแตกต่างนั้น เป็น พลังแห่งความสามัคคี ถ่ายทอดศิลปะ ลงบนสิ่งปลูกสร้าง เพื่อสร้างความ "ว้าว" ให้กับทุกคน ที่มาเยือน

และที่สำคัญที่สุด "ท่านลูกค้าได้ไปดู ไปเห็นกับตาแน่นอน อันนี้ยืนยัน" เพราะการได้ยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางวัดทั้งสอง จะทำให้คุณ ไม่เพียงแค่ได้เห็นความงดงาม ทางศิลปะ แต่ยังได้สัมผัสถึง จิตวิญญาณ ที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ มันคือประสบการณ์ ที่ต้องไปสัมผัสด้วยหัวใจจริง ๆ แล้วคุณจะรู้ว่า เรื่องของศาสนา สนุกและน่าทึ่งกว่าที่คิด

ปางอุ๋ง "ความรู้สึก ซีซ่าร์ถึงบ้านแล้ว"

ปางอุ๋ง: “ซีซ่าร์ถึงบ้านแล้ว” ความงามแห่งธรรมชาติที่เกินบรรยาย

ปางอุ๋ง หรือที่รู้จักกันในนาม “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย” คืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบ ท่ามกลางผืนป่าสนธรรมชาติ อันหนาแน่น ทิวทัศน์ที่นี่ ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่เรียกได้ว่า “สวยอย่างร้ายกาจ” ในแบบที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นเอง โดยไม่ต้องการการแต่งเติมใด ๆ รายล้อมด้วยป่าสน สูงเสียดฟ้า เรียงรายรอบทะเลน้ำจืด อากาศเย็นสดชื่น แผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ ทำให้ทุกลมหายใจ ที่สูดเข้าไป เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ยิ่งในยามเช้า ทะเลหมอกหนา จะโอบคลุมผืนน้ำ และผืนป่า สร้างบรรยากาศที่งดงาม ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาด อากาศหนาวเย็น จนคุณจะรู้สึกโหยหาแสงแดดอุ่น ๆ ที่ค่อย ๆ ทอแสง ผ่านปลายยอดสน

การเดินทางสู่ปางอุ๋ง อาจไม่ง่ายนัก ต้องขับรถลัดเลาะบนถนนแคบ ๆ ปีนขึ้นไหล่เขา ผ่านเส้นทาง ที่โอบล้อมด้วยป่าสนหนาทึบ แต่ทุกความเหนื่อยล้า จะหายไปทันที เมื่อคุณมาถึง เพราะความรู้สึกนั้น... ไม่ต่างอะไรกับซีซาร์ ใน Planet of the Apes ที่ยืนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และสงบงาม มันคือช่วงเวลาที่คุณ จะอยากร้องออกมาดัง ๆ ว่า “ซีซ่าร์ถึงบ้านแล้ว”

และเพื่อให้คุณ ได้ดื่มด่ำกับความงดงาม อย่างเต็มที่ เราได้จัดเตรียม การล่องแพไม้ไผ่ บนผืนน้ำใสสะอาดของปางอุ๋ง ไว้ในโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ให้คุณได้สัมผัส กับความสงบเงียบของธรรมชาติ ลอยตัวไปบนสายน้ำ ท่ามกลางหมอกบาง ๆ ที่ลอยคลอเคลียกับผิวน้ำ สะท้อนเงาของป่าสน ที่ยืนต้นตระหง่านอย่างสง่างาม

นี่ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่มันคือการกลับบ้าน... กลับสู่ธรรมชาติที่แท้จริง

บ้านรักไทย - ไม่ใช่สวิสเซอร์แลนด์

บทกวีแห่งสายหมอก: บ้านรักไทย

เช้าตรู่แห่งบ้านรักไทย...

เสียงลมหายใจเบา ๆ ของลมหนาว กระซิบผ่านยอดชา กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟร้อน ค่อย ๆ ลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นดินชื้นจากหมอก ที่ยังคงปกคลุมทะเลสาบสีมรกตอ่อน ๆ จนแทบมองไม่เห็นผืนน้ำ อย่างชัดเจน รอบข้างเต็มไปด้วยทิวเขา ที่เขียวชอุ่ม แข่งกันอวดความสดใส ของไร่ชากับป่าไม้ธรรมชาติ ที่ไม่ยอมแพ้ความงาม ของกันและกัน

"นี่เหรอ...บ้านรักไทย" เสียงของ มายด์ กระซิบเบา ๆ ในลำคอ ขณะที่เธอกำลังเดินทอดน่อง ไปตามทางเดินเล็ก ๆ ริมทะเลสาบ รองเท้าผ้าใบเปียกหมอก จนรู้สึกชื้นนิด ๆ แต่ใจกลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แก้วกาแฟร้อนในมือ ส่งไออุ่นแผ่ไปถึงปลายนิ้ว

"ว้าว... ยังน้อยไป" ต้น เพื่อนร่วมทางของเธอหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขาเงยหน้ามองสายหมอกสีขาว ที่แทรกตัว อยู่ระหว่างยอดไม้เขียวขจี ก่อนจะหันมามองมายด์ ด้วยแววตาเป็นประกาย "นี่มันไม่ใช่แค่สวย แต่เหมือน เราเดินอยู่ในความฝัน ที่สัมผัสได้จริง"

มายด์ยิ้ม แล้วเธอหยุดเดิน หันไปมองทะเลสาบเบื้องหน้า "ที่นี่ไม่ได้แค่สวยเหมือนสวิตเซอร์แลนด์อย่างที่เขาว่า... มันพิเศษกว่าเยอะ" เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ความสดชื่นแผ่ซ่าน เข้าไปถึงแกนสมอง รู้สึกได้ถึง "อิออนประจุลบ" ที่ไหลเวียนในทุกอณูของอากาศ "สวิตเซอร์แลนด์ไม่มีแบบนี้... ไม่มีสีเขียวสดขนาดนี้ ไม่มีหมอกขาว ที่กอดต้นไม้ได้ขนาดนี้... ไม่มีบ้านรักไทย"

ต้นหัวเราะ "ใครกันนะที่กล้าเอาสวิตเซอร์แลนด์ มาเทียบกับบ้านรักไทย?"

มายด์หันมาสบตา "ไม่รู้สิ... แต่ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่า บ้านรักไทย สวยกว่าเยอะ" เธอยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ความขมเล็ก ๆ ของกาแฟ ตัดกับความหวานของอากาศ และความสดชื่นของธรรมชาติ อย่างลงตัว

ขณะที่ทั้งสองเดินต่อไป เสียงใบไม้พลิ้วไหว ในสายลมหนาวกลายเป็นดนตรีประกอบธรรมชาติ หมู่บ้านชาวจีนยูนนาน เรียงรายอย่างกลมกลืนกับภูเขา ไร่ชาไล่ระดับเป็นขั้นบันได เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นแว่วมาในสายลม

"นี่แหละ... ความสุขที่ไม่ต้องใช้คำบรรยาย" ต้นกระซิบ

มายด์ยิ้มเล็ก ๆ "ใช่... มันคือบ้านรักไทย"

และนั่นคือบทสรุปที่ไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมใด ๆ

ตลาดคนเดินปาย

ปาย วอล์คกิ้ง สตรีท: ถนนคนเดินที่คุณอาจเผลอหลงใหลโดยไม่รู้ตัว

เมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ตลาดคนเดินปาย (Pai Walking Street) จะค่อย ๆ มีชีวิตขึ้นมาอย่างมีเสน่ห์ ถนนสายเล็ก ๆ กลางเมืองปายที่เงียบสงบ ในยามเช้า กลับเต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟ และความคึกคักในยามค่ำคืน ที่นี่แตกต่างจากถนนคนเดินอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ใช่แค่แหล่งขายสินค้าทำมือ (Handmade) และของพื้นเมืองธรรมดา แต่ยังเป็นจุดนัดพบ ของความหลากหลาย ในระดับนานาชาติ คุณจะพบกับงานฝีมือ ที่ไม่เหมือนใคร อาหารท้องถิ่นที่หอมกรุ่น และเมนูนานาชาติ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ทั้งของกินเล่นแบบไทย ๆ และอาหารสไตล์ยุโรป ที่ชาวต่างชาติหลงรัก

สิ่งที่ทำให้ปาย วอล์คกิ้ง สตรีท น่าหลงใหล ไม่ใช่แค่สินค้าและอาหาร แต่คือ “บรรยากาศ” ที่คุณไม่สามารถหาจากที่อื่นได้ เสียงดนตรีสด ที่บรรเลงอย่างเป็นกันเอง จากศิลปินท้องถิ่น เสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยว จากหลากหลายประเทศ ที่มาพบเจอกัน ด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง ทุกก้าวที่เดินบนถนนสายนี้ เหมือนการเดินผ่านโลกใบเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความสุข ความอบอุ่น และเสน่ห์ของปายในทุกมิติ "มาดูกันว่าคุณจะหลงใหล" เหมือนกับผู้คนจากทั่วโลก ที่มาเยือนที่นี่แล้วหรือไม่? เพราะ... คุณอาจพบว่า ตัวเองตกหลุมรักปาย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป

พระธาตุดอยคำ และเทพทันใจ

วัดพระธาตุดอยคำ: ศรัทธาแห่งกาลเวลาและปริศนาที่รอการค้นพบ

วัดพระธาตุดอยคำ ถือเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุด ของเชียงใหม่ สะท้อนเรื่องราวแห่งศรัทธา และประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน นับพันปี โดยมี องค์พระธาตุดอยคำ ประดิษฐานอย่างสง่างาม บนยอดดอย เป็นศูนย์กลางแห่งความเลื่อมใสศรัทธา ของผู้คน มาทุกยุคทุกสมัย ที่นี่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วย บันไดนาค (บันไดมังกร) ที่ทอดยาวจากยอดดอย ลงไปสู่เชิงเขา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เส้นทางของบันได ถูกโอบล้อมด้วยป่าไม้หนาทึบ ราวกับจะกลืนกลบความลับบางอย่างเอาไว้ ว่ากันว่า... ยังไม่เคยมีใครเดินลงไป จนสุดปลายบันไดได้สักคนเดียว เพราะไม่มีใครรู้ว่า มันสิ้นสุดอยู่ตรงไหน เป็นปริศนาที่ท้าทาย ความอยากรู้ของผู้มาเยือน ทุกคน

แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพระธาตุดอยคำ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงพระธาตุ และบันไดมังกรเท่านั้น เพราะที่นี่ยังมี “เทพทันใจ” ศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ ผู้คนมากมาย ต่างแวะเวียนมาสักการะ และอธิษฐานขอพร ว่ากันว่า หากขอในสิ่ง ที่ไม่เกินเลยเส้นมหัศจรรย์ หรือไม่เกินขอบเขต ของความเป็นจริงเกินไป ส่วนใหญ่แล้วจะ “สมหวัง” อย่างน่าอัศจรรย์ ความศรัทธา ที่เปี่ยมล้นของผู้คน ที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ ไม่เพียงเพื่อกราบไหว้ แต่เพื่อสัมผัส กับความสงบในจิตใจ และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่จะพกกลับไปในชีวิตจริง บางที...คำอธิษฐานของคุณ อาจจะรอคอยเพียง การกล่าวออกมา ที่นี่เท่านั้น

สวนพฤกษศาสตร์ กับ Bushes Walkway

Canopy Walkway: สะพานชมยอดไม้ระดับโลกที่ธรรมชาติสร้างเองมานับพันปี

ในขณะที่ The Garden by the Bay ของสิงคโปร์ สร้างความประทับใจด้วยต้นไม้ ที่ย้ายมาจากหลากหลายประเทศ และสะพานเดินชมวิวสุดล้ำ แต่ประเทศไทยของเรา มีมากกว่านั้น เราไม่ได้แค่ “สร้าง” แต่เรา “มีอยู่แล้ว” ด้วยธรรมชาติ ที่อุดมสมบูรณ์ ในระดับ Agent Forest ป่าดึกดำบรรพ์ ที่ต้นไม้บางต้น มีอายุนับพันปี ปกคลุมพื้นที่ กว้างใหญ่เป็นแสนไร่ เติบโตและคงอยู่มานาน กว่าพันปี โดยไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี หรือการจัดแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น

Canopy Walkway ที่ สวนพฤกษศาสตร์ ของไทย จึงไม่ใช่เพียงแค่ สะพานชมวิวธรรมดา แต่คือ สะพาน ที่พาคุณเดินผ่านยอดไม้จริง ๆ ที่หยั่งรากลึกในดินไทย มานับพันปี เมื่อคุณย่างก้าวไปบนสะพาน จะได้สัมผัส กับความสูงเสียดฟ้า มองเห็นผืนป่าเขียวขจี ที่ทอดยาวสุดสายตา สูดอากาศที่เต็มไปด้วยอิออนประจุลบ จากธรรมชาติแท้ ๆ ทุกลมหายใจ ที่คุณสูดเข้าไป คือพลังแห่งความสดชื่น ที่ไม่สามารถจำลองขึ้นได้ ในห้องกระจกใด ๆ ในโลก นอกจากนี้ยังมี ศูนย์เพาะพันธุ์พืชหายาก จากทั่วโลก ที่รวบรวมพรรณไม้สวยงาม และน่าสนใจที่สุดในเอเชีย ทำให้ที่นี่ ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ แต่ยังเป็นสถานที่ ที่เพื่อนบ้านต้องยำเกรง และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต่างหลั่งไหลมาเยือน

มันคือเหตุผลที่ชัดเจนว่า... ทริปนี้เราต้องพาคุณ มาเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะไม่มีคำบรรยายใด จะเทียบได้กับความรู้สึก จริง ๆ ที่ได้ยืนอยู่ท่ามกลางยอดไม้ ระดับตำนานเหล่านี้

เวียงกุมกาม มหานครใต้พิภพ

เวียงกุมกาม: เมืองใต้พิภพที่เล่าเรื่องราวข้ามกาลเวลา

เวียงกุมกาม คือเมืองโบราณ ที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ใต้ผืนดิน มายาวนานกว่าพันปี เมืองแห่งนี้ เคยรุ่งเรืองในฐานะ ศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนา ก่อนจะถูกกลบฝัง ด้วยชั้นตะกอนของกาลเวลา และแม่น้ำที่เปลี่ยนเส้นทาง จนกระทั่งนักโบราณคดี ได้ขุดค้นพบมันอีกครั้ง กลายเป็น ขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัส รากเหง้าของอารยธรรมล้านนา อย่างแท้จริง การเดินทางมายังเวียงกุมกาม ไม่ใช่แค่ การเยี่ยมชม ซากปรักหักพังโบราณ แต่คือการเดินทางย้อนเวลา เพื่อเรียนรู้เรื่องราว ที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นแผ่นดิน มานับพันปี

ในแพ็คเกจทริปนี้ เราจะพาท่าน นั่งรถม้า แบบดั้งเดิม ลัดเลาะไปตามเส้นทางโบราณ ของเวียงกุมกาม ให้คุณได้สัมผัส กับบรรยากาศของอดีต อย่างเต็มอารมณ์ รถม้าจะค่อย ๆ พาคุณผ่าน วัดโบราณ ซากเจดีย์ และโบราณสถานต่าง ๆ ที่ถูกค้นพบ เรียงรายท่ามกลางธรรมชาติ อันสงบเงียบ ตลอดเส้นทางจะมี ไกด์นำเที่ยว ที่เชี่ยวชาญ คอยบรรยาย เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อย่างสนุกสนาน และน่าตื่นเต้น คุณจะได้ทั้ง ความรู้ ความสุข และความตื่นตาตื่นใจ ในการเดินทาง ที่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือการเพิ่มคุณค่า ให้กับ Package Time ของคุณอย่างแท้จริง

“สนุก ตื่นเต้น มีความรู้ และมีความสุข” นี่คือคำมั่นสัญญา ที่ทริปนี้จะมอบให้คุณ เมื่อได้สัมผัส กับมนต์เสน่ห์ของเมืองโบราณ ที่รอคอยการค้นพบ อยู่เสมอ

	โปรแกรม 6 วัน 5 คืน สำหรับ สว ผู้ใหญ่ และทุกวัย
	วันที่ 1: สัมผัสเสน่ห์ล้านนา อย่างแท้จริง 08:00 น. ต้อนรับท่านลูกค้า จากสนามบินเชียงใหม่ ด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น จากทีมทัวร์ไกด์ประจำกลุ่ม จัดเก็บสัมภาระขึ้นรถ อย่างเรียบร้อย ก่อนออกเดินทางท่องเที่ยว ในวันแรกทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา แม้แต่นาทีเดียว ในการสัมผัสมนต์เสน่ห์ ของเชียงใหม่ 09:00 น. มุ่งหน้าสู่ ดอยม่อนแจ่ม จุดชมวิวสุดฮิต ที่โอบล้อมด้วยเนินเขาสวยงาม หลากหลายระดับความสูง สลับซับซ้อน พร้อมทะเลหมอก ที่ลอยผ่านเบา ๆ ทำให้อากาศสดชื่น และเย็นสบายตลอดปี 10:00 น. เดินชม สะพานดอกไม้ เลียบริมเขา ชมทิวทัศน์ด้านล่าง ที่ปกคลุมด้วยป่าเขียวขจี พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางสายหมอก ที่ลอยผ่านตัวคุณอย่างนุ่มนวล ความรู้สึกเย็นสดชื่น จะซึมซับเข้าไปในทุกลมหายใจ 10:30 น. กิจกรรมสุดพิเศษ ที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาดอยม่อนแจ่ม นั่นคือการขับ “รถแม้ว” รถไม้ภูมิปัญญาของชาวเขาแม้ว อาจจะสับสนเล็กน้อย ในตอนแรก แต่เมื่อเข้าใจ ระบบการขับขี่แล้ว จะพบว่า มันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และท้าทาย 11:30 น. เดินทางกลับมายัง สวนพฤกษศาสตร์ ชมความยิ่งใหญ่ ของพันธุ์พืชยืนต้น อายุกว่าร้อยปี และสัมผัสประสบการณ์ การเดินบน Canopy Walkway สะพานชมยอดไม้สูง ที่จะทำให้คุณ ได้เห็นความงดงามของธรรมชาติ จากมุมมองใหม่ ๆ อย่างน่าตื่นเต้น 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ สุดผ่อนคลาย เชิงดอยม่อนแจ่ม เพลิดเพลินกับเมนูอาหารท้องถิ่น รสเลิศ 14:00 น. เดินทางถึงเชิงดอยสุเทพ และมุ่งหน้าสู่ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง เพื่อเยี่ยมชม สวนกุหลาบดอยสุเทพ ที่สวยงาม จนถูกนำเสนอ ในนิตยสารท่องเที่ยวระดับโลก เดินชมวิถีชีวิตของชาวเขา ผ่านร้านค้าพื้นเมือง และแวะเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่ารู้ของวัฒนธรรมท้องถิ่น 16:00 น. สักการะ พระธาตุดอยสุเทพ ศิลปะล้านนา อันวิจิตรงดงาม ที่เต็มไปด้วยคุณค่า และความศักดิ์สิทธิ์ พร้อมชมวิวเมืองเชียงใหม่ จากมุมสูงที่งดงามเกินบรรยาย ทุกครั้งที่มาเยือนที่นี่ จะทำให้คุณประทับใจ ลึกซึ้ง ในระดับจิตวิญญาณ 17:00 น. เดินทางสู่ วัดเจดีย์หลวง สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรือง ของอาณาจักรล้านนา ชมความยิ่งใหญ่ ของเจดีย์โบราณ ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ อันทรงคุณค่า และเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ของเชียงใหม่ 18:00 น. Check-in ที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง Le Meridien Chiang Mai ซึ่งตั้งอยู่บนถนน ที่คึกคัก และเต็มไปด้วยสีสัน อย่าง Chiang Mai Night Bazaar ให้คุณได้พักผ่อน อย่างเต็มที่ ก่อนออกไปสัมผัส กับค่ำคืนแห่งล้านนา 18:30 น. รับท่านลูกค้า ออกจากโรงแรม เพื่อรับประทาน อาหารเย็นมื้อพิเศษ แบบขันโตก เพลิดเพลินกับการแสด งศิลปะล้านนา ในบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่จะทำให้ค่ำคืนนี้ เต็มไปด้วยความทรงจำ อันแสนประทับใจ 21:00 น. สิ้นสุดกิจกรรมของวันแรก พร้อมให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เตรียมตัว สำหรับการผจญภัย ในวันถัดไป วันที่ 2: การผจญภัยสู่เส้นทางธรรมชาติ ของปาย 07:00 น. เริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการรับประทานอาหารเช้าแสนอร่อย ที่ Le Meridien Chiang Mai เตรียมพลัง สำหรับการผจญภัยในวันนี้ 08:00 น. Check-out ออกจากโรงแรม พร้อมออกเดินทาง สู่เส้นทางธรรมชาติอันงดงาม ของ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านถนนคดเคี้ยว ท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาสลับซับซ้อน แต่ความชำนาญของคนขับ ที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี จะทำให้การเดินทาง เต็มไปด้วยความปลอดภัย และสนุกสนาน 10:00 น. แวะพักที่ จุดชมวิวห้วยน้ำดัง และ ดอยกิ่วลม สถานที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าดงดิบลึก ที่เปรียบเสมือน ช้างเผือกรูปงาม ความงดงามของวิวทิวทัศน์ ทำให้ทุกคนต้องตะลึง ในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ 11:00 น. เดินทางต่อไปยัง บ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด ชมเส้นทางธรรมชาติ ที่นำไปสู่แหล่งน้ำแร่ ผุดขึ้นจากใต้พื้นโลก พร้อมโอกาสในการทดลอง แช่น้ำแร่ธรรมชาติ ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ ให้ความผ่อนคลาย และประโยชน์ต่อสุขภาพ 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน บนยอดดอยที่ ดอยหยุนไหล สัมผัสบรรยากาศหมอกบาง ๆ ที่เคลื่อนผ่าน เป็นวัฏจักรตลอดวัน เพิ่มความโรแมนติก และสดชื่น ในการรับประทานอาหารกลางแจ้ง 13:00 น. สำรวจ จุดชมวิวหยุนไหล ชมความงดงามของทิวทัศน์ 360 องศา ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ของขุนเขา และสายหมอก ที่โอบล้อมเมืองปาย ไว้อย่างงดงาม 15:00 น. เยือน วัดน้ำฮู สัมผัสความมหัศจรรย์ของพระพุทธรูป ที่มีน้ำอยู่ในพระเศียรตลอดเวลา ปริศนาทางธรรมชาติ ที่ยังไม่มีคำตอบ ได้อย่างชัดเจน เพิ่มความลึกลับ และน่าสนใจ ให้กับทริปนี้ 16:00 น. เดินทางต่อไปยัง ปายแคนยอน หรือ กองแลน สถานที่ที่เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ อย่างมหัศจรรย์ เกิดเป็นหุบเหวลึก ที่โอบล้อมด้วยป่าไม้ทองคำ เพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจ ทุกย่างก้าว 17:00 น. แวะที่ ลำธารน้ำแร่ธรรมชาติ น้ำใสสะอาด ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ อุณหภูมิประมาณ 55 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการแช่น้ำ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พร้อมดื่มด่ำ กับความงดงามของธรรมชาติ 18:00 น. เยี่ยมชม พระธาตุแม่เย็น จุดชมวิวที่มองเห็นเมืองปาย ได้อย่างชัดเจน สักการะพระองค์ใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญ ของเมืองปาย และพระธาตุคู่องค์เล็ก ที่เก็บงำเสน่ห์ แห่งอารยธรรมล้านนา 19:00 น. Check-in เข้าที่พัก The Riverie Siam ปาย รีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติ ริมแม่น้ำปาย ที่คุณจะได้สัมผัส กับหมอกยามเช้าอันหนาแน่น และความเงียบสงบ ที่หาได้ยาก 20:00 น. ออกจากรีสอร์ท เพื่อรับประทานอาหารเย็นที่ ร้านอาหารอร่อย ริมถนนคนเดินปาย ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น รสชาติแท้ ๆ 21:00 น. เดินเล่นเพลิดเพลินกับ ถนนคนเดินปาย (Night Light) สัมผัสวิถีชีวิตยามค่ำคืน ของเมืองปาย ชมสินค้าทำมือ อาหารพื้นเมือง และบรรยากาศสุดชิลล์ ที่เต็มไปด้วยศิลปะ และวัฒนธรรม ดึกดื่นแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ เพราะนี่คือเวลาของความสุข ในวันหยุดพักผ่อน ที่แท้จริง วันที่ 3: การเดินทางสู่เมืองสามหมอก 07:00 น. เริ่มต้นวันใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้า อันงดงามริมแม่น้ำปาย ที่ ภัตตาคารของรีสอร์ท พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้า อร่อย ๆ ตั้งแต่เวลา 06:00 น. ให้คุณได้เติมพลัง ก่อนออกเดินทาง 08:30 น. Check-out ออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าสู่เส้นทาง ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม สู่เมืองสามหมอก ปาย - แม่ฮ่องสอน ระหว่างทาง เราจะได้สัมผัสกับ ทัศนียภาพ ที่น่าประทับใจ 10:00 น. แวะชมวิวที่ จุดชมวิวบางมะผ้า สถานที่ซึ่ง มอบมุมมองที่งดงาม ของขุนเขาสลับซับซ้อน และทะเลหมอก ที่ล่องลอยอย่างเงียบสงบ 11:00 น. เดินทางเข้าสู่ ถ้ำน้ำลอด หนึ่งในแหล่งกำเนิด แห่งการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทัวร์ไกด์จะนำท่าน สำรวจถ้ำที่ซับซ้อน และสวยงามถึง 7 โถงภายใน พร้อมสัมผัสความมหัศจรรย์ ผ่านการล่องแพไม้ไผ่ ไปตามเส้นทางน้ำใต้ดิน ถ้ำแห่งนี้ เคยเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับนักเผยแผ่ศาสนา ในการนำเรื่องราวความงดงาม มาเผยแพร่ และทำให้การท่องเที่ยวไทย ขยายไปสู่ทุกภูมิภาค 12:30 น. แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านชมวิวห้อยขา สัมผัสความสดชื่นของธรรมชาติรอบตัว พร้อมวิวทิวทัศน์หุบเขาแบบเต็มอิ่ม 15:00 น. เยี่ยมชม ถ้ำปลา แหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ไหลออกจากถ้ำ ตัดผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี ขนานไปกับหน้าผาหินสูง อากาศเย็นสดชื่น ชวนให้ผ่อนคลาย อย่างเต็มที่ 17:00 น. เดินทางถึง บ้านรักไทย หมู่บ้านที่เงียบสงบ ท่ามกลางขุนเขา และทะเลสาบสวยงาม นำท่านวนรอบทะเลสาบ เพื่อสัมผัสบรรยากาศ การใช้ชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ในทุกตารางเมตร 17:30 น. Check-in เข้าพักที่ รีสอร์ท “ลีไวน์ รักไทย” วิลล่ากลางไร่ชา ท่ามกลางธรรมชาติ ที่เงียบสงบ และงดงามอย่างแท้จริง 18:00 น. รับประทานอาหารเย็น ที่รีสอร์ท พร้อมสัมผัสลมหนาวเย็น ๆ ที่ค่อย ๆ พัดโชยผ่าน สร้างบรรยากาศ ที่แสนผ่อนคลาย 20:00 น. ยามค่ำคืน ใต้ท้องฟ้า เต็มไปด้วยดวงดาว ท่านสามารถเลือกออกไปเดินเล่น ย่านถนนคนเดิน หมู่บ้านเล็ก ๆ ด้านล่าง สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น อย่างเป็นกันเอง หรือถ้าเหนื่อยแล้ว ก็เพียงแค่กล่าว Good Night และพักผ่อนอย่างเต็มที่ ในอ้อมกอดของธรรมชาติ จบวันด้วยความทรงจำ อันแสนประทับใจ พร้อมสำหรับการผจญภัย ในวันถัดไป วันที่ 4: สัมผัสมนต์เสน่ห์ แม่ฮ่องสอน 07:00 น. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ ด้วยการรับประทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท ท่ามกลางบรรยากาศ สายหมอกที่ปกคลุมทั่วบริเวณ สร้างความรู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายอย่างแท้จริง 08:00 น. เตรียมตัวสำหรับการล่องเรือ ชมความงดงามของ ทะเลสาบบ้านรักไทย ที่ถูกแต่งแต้ม ด้วยหมอกหนา และอากาศหนาวเย็น ทัวร์ไกด์จัดเตรียมเรือ พร้อมพาคุณสัมผัสความงดงาม แบบใกล้ชิด 09:00 น. Check-out ออกจากรีสอร์ท มุ่งหน้าสู่ ปางอุ๋ง สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ทะเลน้ำจืดขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำในโครงการหลวง พร้อมทิวเขาเขียวขจี ที่ล้อมรอบ สัมผัสกับดอกไม้สีสันสดใส และสายหมอกบาง ๆ ที่เพิ่มความโรแมนติก ให้กับทริป 10:30 น. เดินทางต่อไปยัง สะพานไม้ไผ่ซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุด ในประเทศไทย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานจริง โดยเป็นเส้นทางสำคัญ สำหรับพระสงฆ์บิณฑบาต และชาวบ้านที่ใช้เดินทาง ข้ามแม่น้ำและทุ่งนา สัมผัสบรรยากาศเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แห่งวิถีชีวิตชุมชน 11:30 น. ผ่อนคลายร่างกายที่ บ่อโคลนสุขภาพ ซึ่งได้รับการรับรอง จากสำนักงานสุขภาพ ว่าเป็นบ่อโคลนร้อน ที่ดีต่อสุขภาพที่สุด ทัวร์ไกด์ได้จัดจอง คอร์สการอบโคลน อย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณได้สัมผัส ประสบการณ์การบำบัด ที่สมบูรณ์แบบ 12:00 น. หลังจากอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว รับประทานอาหารกลางวัน อย่างเอร็ดอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ที่สงบและผ่อนคลาย 13:30 น. เดินทางไปยัง บ้านห้วยเสือเฒ่า เพื่อเยี่ยมชม หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว สัมผัสวิถีชีวิตแท้ ๆ ของชุมชน ชนเผ่าคอยาว ในบรรยากาศดั้งเดิม ท่ามกลางหุบเขา ที่เงียบสงบ และเป็นธรรมชาติ 15:00 น. เยี่ยมชม วัดจองคำ และวัดจองกลาง สองวัดที่ตั้งอยู่ติดกัน แต่โดดเด่นด้วยศิลปะ แตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่างศิลปะ แบบพม่า และมอญ ความงดงามของสถาปัตยกรรม จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม 16:00 น. เดินทางขึ้นสู่ยอดภูเขาสูง เพื่อสักการะ องค์พระธาตุดอยกองมู สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มอบทิวทัศน์อันงดงาม ของเมืองแม่ฮ่องสอน ให้คุณได้ดื่มด่ำ กับบรรยากาศยามเย็น 17:30 น. Check-in เข้าพักในห้อง Premier Deluxe @B2 Hotel โรงแรมใหม่ล่าสุด ที่ผ่านมาตรฐานความสะอาด ระดับสูง หรือหากห้องเต็ม จะจัดเตรียมที่พักเทียบเท่า เช่น Imperial Mae Hong Son หรือ Sang Poy Cottage 18:30 น. ทัวร์ไกด์นำท่าน ออกจากรีสอร์ท เพื่อรับประทานอาหารค่ำที่ ถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง และสัมผัสวิถีชีวิตยามค่ำคืน ของเมืองเล็ก ๆ ที่อบอวลไปด้วยมนต์เสน่ห์ หลังจากนั้น สนุกสนานกับ Night Light สำรวจความคึกคัก ของถนนคนเดิน ก่อนกลับเข้าสู่ที่พัก เพื่อพักผ่อนอย่างเต็มที่ จบวันด้วยความประทับใจ จากเสน่ห์แห่งธรรมชาติ และวัฒนธรรมของแม่ฮ่องสอน วันที่ 5: การเดินทางสู่ดอยอินทนนท์ 07:00 น. เริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการรับประทานอาหารเช้า ในบรรยากาศแสนอบอุ่น เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง สู่เส้นทางธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ อันงดงาม 08:00 น. Check-out ออกจากรีสอร์ท พร้อมออกเดินทาง เลียบดอย เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงาม แตกต่างจากขามา สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ และความเขียวขจีของขุนเขา ตลอดเส้นทาง 09:30 น. เดินทางผ่าน ขุนยวม และแวะที่ จุดชมวิวดอยแม่อูคอ แม้จะไม่มีดอกบัวตอง สีทองบานในวันนั้น แต่ความงดงามของธรรมชาติที่นี่ ไม่เคยลดน้อยลง ชมวิวภูเขาสลับซับซ้อน ที่ทอดยาวสุดสายตา 11:00 น. แวะที่ สถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์ ลงจากรถเพื่อชื่นชมสวนดอกไม้ ที่สวยงามตลอดปี ซึ่งพันธุ์ไม้และดอกไม้ จะถูกสับเปลี่ยนตามฤดูกาล สร้างความประทับใจ ไม่รู้ลืม 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ในบรรยากาศธรรมชาติแสนสดชื่น เติมพลัง สำหรับการเดินทางต่อ ในช่วงบ่าย 13:00 น. เดินทางขึ้นสู่ ดอยอินทนนท์ จุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย ดอยอ่างกา เพื่อเดินชม และศึกษาธรรมชาติ ของป่าดิบ เขาที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี และอากาศเย็นสบาย เยี่ยมชมและนมัสการ พระธาตุเจดีย์คู่ ที่ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม ล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้เมืองหนาว อากาศเย็นสดชื่น ตลอดทั้งปี 15:00 น. แวะชมความงดงามของ น้ำตกวชิรธาร น้ำตกชั้นเดียว ที่สวยที่สุดในประเทศไทย รายล้อมด้วยธรรมชาติ ที่ดิบและบริสุทธิ์ ต่อด้วยการเยี่ยมชม ทุ่งไฮเดรนเยียแห่งดอยอินทนนท์ จุดถ่ายรูปสุดฮิต ที่เต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียช่อใหญ่ สีสันสดใส ให้คุณได้เก็บภาพประทับใจ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้แสนสวย 17:00 น. เดินทางกลับเข้าสู่ จังหวัดเชียงใหม่ และ Check-in ที่ โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ เพื่อพักผ่อน และเตรียมตัวสำหรับค่ำคืนนี้ 18:00 น. ทัวร์ไกด์รับท่านออกจากโรงแรม เพื่อรับประทานอาหารเย็น ในย่านถนนคนเดิน ประตูท่าแพ สัมผัสกับความหลากหลาย ของผู้คน และวัฒนธรรมล้านนา เพลิดเพลินกับการเดินเล่น และช้อปปิ้ง ในบรรยากาศสุดคึกคัก จบวันด้วยความประทับใจ จากธรรมชาติ และวัฒนธรรมล้านนา เตรียมตัวสำหรับการเดินทางกลับ ในวันถัดไป วันที่ 6: การเดินทางสู่เมืองใต้พิภพ และปิดท้ายทริป 07:00 น. เริ่มต้นเช้าวันสุดท้าย ด้วยการรับประทานอาหารเช้า ที่รีสอร์ท เติมพลังสำหรับการเดินทาง สำรวจเมืองเชียงใหม่ ในช่วงสุดท้ายของทริป 08:00 น. Check-out ออกจากที่พัก มุ่งหน้าสู่ เมืองใต้พิภพ - เวียงกุมกาม เมืองโบราณ ที่เคยหายสาบสูญไป จากแผนที่โลก จนถูกค้นพบใหม่ และได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกทางโบราณสถานสำคัญ ทัวร์ไกด์ประจำกลุ่มเตรียม รถม้า และไกด์บรรยายพิเศษ เพื่อพาท่าน สำรวจเมืองโบราณแห่งนี้ อย่างเต็มอิ่ม 11:00 น. เดินทางต่อไปยัง วัดพระธาตุดอยคำ เพื่อสักการะพระธาตุศักดิ์สิทธิ์และ ถวายดอกมะลิ แด่ เทพทันใจ ที่มีชื่อเสีย งในเรื่องการอธิษฐานขอพร ว่ากันว่า หากขอในสิ่งที่ไม่เกินขอบเขตความเป็นจริง จะสมหวังในไม่ช้า พร้อมทั้งชมวิว บันไดมังกร ที่ทอดยาวจากยอดเขา ลงสู่ป่าไม้หนาทึบด้านล่าง ซึ่งยังไม่มีใครรู้แน่ชัด ว่าบันไดนี้ทอดยาวไปถึงที่ใด เพราะยังไม่มีใคร เดินไปจนสุดปลายทาง 12:30 น. รับประทานอาหารกลางวัน เพื่อเติมพลัง สำหรับการเดินทางช่วงบ่าย 14:00 น. แวะที่ ตลาดวโรรส แหล่งรวมของฝาก และสินค้าท้องถิ่น ที่ครบครันที่สุด ในเชียงใหม่ ให้ท่านได้เลือกซื้อ ของฝากกลับบ้าน ทั้งของกิน ของใช้ และสินค้าพื้นเมืองมากมาย 16:30 น. เดินทางไปยัง สนามบินเชียงใหม่ เพื่อส่งท่านลูกค้า ก่อนเวลาเครื่องบินออก 2 ชั่วโมงเสมอ เพื่อความสะดวกสบาย และไม่เร่งรีบในการเช็กอิน จบทริปเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ด้วยความทรงจำ อันแสนประทับใจ ที่จะอยู่ในหัวใจของคุณ ตลอดไป

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา:“ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 38,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก 22,500 บาท/ท่าน (อายุ 3-10ขวบ)

แพ็คเกจนี้รวมให้ทั้งหมด ดังนี้

• รับส่ง จากสนามบินเชียงใหม่
• ที่พัก 5 คืน
• อาหารครบทุกมื้อ
• นำเที่ยวตามโปรแกรมแบบส่วนตัว 6 วัน
• รถ และคนขับ บริการ Stand By ในพื้นที่ 24 ชั่วโมง ทุกการเดินทางฉุกเฉิน นอกเหนือจากทริป ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทุกกรณี
• ทัวร์ไกด์ประจำกลุ่ม บริการ ดูแล ให้คำปรึกษา และ Stand By 24 ชั่วโมง
• ทัวร์ไกด์ พิเศษในการเข้าพื้นที่ ๆ ต้องมีคำอธิบายแบบเชิงลึก
• ค่าผ่านเข้าชม พร้อมทำกิจกรรมทุกประเภทตามโปรแกรม
• ประกันภัยนักท่องเที่ยว เต็มช่องทาง

Status เป็นสิ่ง ปฏิสัมพันธภาพ

คำว่า "ดีที่สุด" อาจเป็นเพียงสถานะ ทางความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ตามมุมมองของแต่ละคน แต่สำหรับ The Reverie Siam รีสอร์ทหรูริมน้ำ แห่งเมืองปาย ไม่ว่าคุณจะมองจากมุมไหน หรือจากมุมมองของใครก็ตาม คำว่าดีที่สุด ก็ยังคงชัดเจน และตรงกันเสมอ การได้รับคะแนนโหวตสูง ถึง 9.5 จากเต็ม 10 จากผู้เข้าพัก ระดับ Upper Class คือเครื่องพิสูจน์ ถึงความยอดเยี่ยม ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งบรรยากาศ การบริการ และรายละเอียดทุกอย่าง ล้วนสะท้อนถึงความหรูหรา และมาตรฐานระดับสูง อย่างแท้จริง

นี่คือเหตุผลว่า ทำไมแพ็คเกจ Upper Class จึงเลือกจัดที่พัก สุดพิเศษแห่งนี้ เพื่อคุณ เพราะวันนี้... คุณคือ Upper Class แห่งเมืองปาย สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือระดับ และปล่อยใจให้ล่องลอยไป กับเสน่ห์อันแสนสงบ ที่รอคุณมาค้นพบ

ที่พัก เต็มอิ่มด้วย อิออนประจุลบใน ออกซิเจน

แพ็คเกจสุดพิเศษนี้ ถูกออกแบบมา เพื่อผู้ใหญ่ที่ต้องการ การพักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนสำคัญ หรือในโอกาสพิเศษ เจซีทัวร์ ได้คัดสรรรีสอร์ท ที่มอบประสบการณ์เหนือระดับ เพื่อให้ทุกช่วงเวลาของคุณ เต็มไปด้วยความสุข และความทรงจำที่ไม่รู้ลืม เราเลือกสถานที่ ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังดีต่อสุขภาพ ด้วยบรรยากาศ ที่เต็มไปด้วย อิออนประจุลบ สูงสุด ซึ่งช่วยฟื้นฟูทั้งร่างกาย และจิตใจ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขอแนะนำ ลีไวน์ รีสอร์ท สวรรค์กลางไร่ชา ริมทะเลสาบ สวยงาม ท่ามกลางหุบเขาอันเขียวขจี ที่นี่คุณจะได้ดื่มด่ำ กับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง แห่งความสดชื่น พร้อมสัมผัสกับความเงียบสงบ ที่หายากในชีวิตประจำวัน ทุกมุมของรีสอร์ท ถูกออกแบบเพื่อการพักผ่อนที่แท้จริง ให้คุณได้เก็บเกี่ยว ความทรงจำที่งดงาม และมีความหมายตลอดไป

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click