North Weird: 5 วัน 4 คืน

3 จังหวัดแห่งความฝัน: เชียงราย - เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน
การเดินทางที่ต้องไปให้ถึง สักครั้งในชีวิต

ถ้ามีสักหนึ่งทริป ที่คุณต้องทำให้ได้ ก่อนจะหมดลมหายใจ เราขอแนะนำ เส้นทางนี้ 3 จังหวัดแห่งความฝัน การเดินทาง สู่ดินแดนที่งดงามที่สุด ของภาคเหนือ เจซีทัวร์ เชียงใหม่ ได้คัดสรรและออกแบบ แพ็คเกจสุดพิเศษ ที่ไม่ใช่แค่ทัวร์ธรรมดา แต่คือ “ประสบการณ์ ที่จะฝังลึกในความทรงจำ” ทุกเส้นทาง ทุกจุดหมาย ถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน โดยมีเพียงหลักเกณฑ์เดียว: มันต้องทำให้คุณรู้สึกว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต ฉันได้มาแล้ว"

เชียงราย เมืองเหนือสุด ที่ถูกโอบล้อมด้วยความงดงามของธรรมชาติ และวัฒนธรรมอันล้ำค่า ถ้าอยากรู้ว่า การยืนอยู่บนแผ่นดินไทย แล้วมองข้ามแม่น้ำโขง ไปเห็น ลาว และ พม่า พร้อมกัน มันรู้สึกยังไง คุณต้องมาที่นี่ แหล่งท่องเที่ยว ที่ใคร ๆ ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเอง อย่าง วัดร่องขุ่น อันวิจิตร เหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด หรือ ดอยตุง ที่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้ และกลิ่นหอมของกาแฟสด ๆ และถ้าอยากสัมผัสประวัติศาสตร์แบบเข้มข้น ก็ต้องไม่พลาด สามเหลี่ยมทองคำ ดินแดนที่เต็มไปด้วย เรื่องราวลึกลับ

เชียงใหม่ เมืองที่ทุกอณูของอากาศ เต็มไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา แม่น้ำ หรือรอยยิ้มของผู้คน ที่นี่คือจุดบรรจบ ของธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรม ที่จะทำให้คุณหลงรัก โดยไม่รู้ตัว แค่เดินเล่นในย่านเมืองเก่า ก็เหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่เต็มไปด้วย วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี และร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ แต่อย่าหยุดแค่นั้น ขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ บนยอดดอยอินทนนท์ หรือปล่อยใจ ให้ล่องลอยกับแสงโคม ในงาน ยี่เป็ง (ลอยกระทงล้านนา) ความรู้สึกตอนนั้น คุณจะรู้ว่า ทำไมเชียงใหม่ ถึงอยู่ในใจของนักเดินทางทั่วโลก

แม่ฮ่องสอน เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกซ่อนตัว อยู่ท่ามกลางขุนเขา และสายหมอกจนได้ชื่อว่า “เมืองสามหมอก” เพราะไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ที่นี่จะถูกห่มคลุมด้วยหมอกบาง ๆ ที่ทำให้ทุกอย่างดูโรแมนติก แบบไม่ต้องพยายาม คุณจะได้สัมผัสกับความเรียบง่าย ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็น ปาย เมืองเล็ก ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ และความอิสระ หรือ ปางอุ๋ง ที่ถูกขนานนามว่า "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" และอย่าลืมไปเยือน หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ที่จะทำให้คุณ เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น ในแบบที่ ไม่มีหนังสือเล่มไหนบอกได้

แพ็คเกจนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีหัวใจ “Weird” ไม่ใช่แค่คนที่อยากเที่ยว แต่สำหรับคนที่อยาก “รู้สึก” กับทุกย่างก้าว ของการเดินทาง มันไม่ใช่แค่ทริปท่องเที่ยว แต่มันคือการ เดินทางค้นหาความหมาย ของคำว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต" ถ้าคุณกำลังมองหา ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ลองเปิดใจ แล้วเดินทางไปกับเรา—คุณอาจค้นพบมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับโลก และบางที… อาจรวมถึง ตัวคุณเองด้วย

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

จุดชมวิว ดอยกิ่วลม ห้วยน้ำดัง..

จุดชมวิวกิ่วลม ห้วยน้ำดัง - ความงดงามที่ต้องหยุด ห้ามพลาดเด็ดขาด

ถ้าคุณกำลังมองหา จุดเช็คอินที่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูป แล้วเดินผ่านไป แต่เป็นจุดที่ต้องหยุด… สูดหายใจลึก ๆ แล้วปล่อยให้ความงดงาม ซึมซับเข้าไปในทุกเซลล์ของร่างกาย จุดชมวิวกิ่วลม ในเขตอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง คือที่แห่งนั้น

ลองจินตนาการดูสิ: คุณกำลังยืนอยู่บนจุดสูง มองผ่าน สวนดอกไม้หลากสี ที่เบ่งบาน เหมือนพรมธรรมชาติ ทอดยาวไปไกลสุดสายตา สายลมเย็น ๆ พัดผ่านหน้า พร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ จากนั้นสายตาคุณ จะไหลตามทะเลหมอก ที่ปกคลุมแนวเขา เหมือนผ้าห่มบาง ๆ ก่อนจะจบที่ "ทะเลกรีน" ด้านล่าง ผืนป่าสีเขียวเข้ม ที่ทอดตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภาพนี้ไม่ใช่แค่สวย แต่คือ "ว้าว" ในแบบที่ทำให้คุณ ต้องหยิบกล้องขึ้นมา (แม้จะไม่ใช่สายถ่ายรูปก็ตาม)

อากาศที่นี่ ไม่ใช่แค่เย็นธรรมดา แต่เป็น "เย็นแบบหนาวกำลังดี" ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะมาเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ลมเย็น ๆ จะคอยกระซิบข้างหูคุณเสมอ ว่า "นี่แหละ…ชีวิตที่แท้จริง" มันไม่ใช่ความหนาว ที่ทำให้คุณสั่น แต่เป็นความสดชื่น ที่ทำให้คุณรู้สึก “ตื่นเต็มตา” ทุกลมหายใจ

นี่คือจุดที่ถ้าไม่ได้แวะ คุณจะรู้สึกเหมือน ทริปขาดอะไรบางอย่างไป เพราะความสวยของมัน "ไม่มีอะไรต้องสงสัย" มันสวยแบบไม่ต้องปรุงแต่ง สวยแบบธรรมชาติจริง ๆ จนบางคนบอกว่า แค่ยืนเฉย ๆ ที่นี่ก็เหมือนได้ถ่ายรูปสวยแล้ว

ในแพ็คเกจ "North Weird" ของเรา จุดชมวิวกิ่วลมไม่ใช่แค่จุดแวะพัก แต่เป็นจุดที่เราต้องการให้คุณ "หยุด" เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สึก เก็บภาพในหัวใจ แล้วปล่อยให้ธรรมชาติ ช่วยรีเซ็ตทุกอย่างในตัวคุณ เพราะนี่ไม่ใช่แค่จุดชมวิว… แต่นี่คือ "จุดที่คุณจะจดจำ"

ต้นกำเนิดของ Classic Bamboo Bridge

สะพานไม้ไผ่โขกู้โส่ - เส้นทางแห่งศรัทธาที่กลายเป็นแลนด์มาร์กสุดเซอร์ไพรส์

เดิมที สะพานไม้ไผ่โขกู้โส่ แห่งเมืองปาย ไม่ได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อความอลังการ หรือดึงดูดนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่น้อย มันเกิดขึ้นจาก “แรงศรัทธา และความจำเป็น” ล้วน ๆ ชาวบ้านต้องการ เส้นทางข้ามทุ่งนากว้างใหญ่ เพื่อเดินทางจากหมู่บ้าน ไปยัง สำนักสงฆ์ ได้สะดวก โดยไม่ต้องลุยโคลนในฤดูฝน หรือฝ่าแดดร้อนจัดในฤดูแล้ง และเมื่อมีสำนักสงฆ์แห่งใหม่ ตั้งอยู่ไกลออกไป พวกเขาจึงไม่ลังเล ที่จะสร้างสะพานไม้ไผ่ ที่ยาวเหยียดนี้ ด้วยมือเปล่า และภูมิปัญญาท้องถิ่น เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความแข็งแกร่ง

แต่จุดหักมุมอยู่ตรงนี้: สะพานที่ถูกสร้างขึ้นจากความจำเป็น กลับกลายเป็น “สะพานแห่งความเซอร์ไพรส์” สำหรับนักท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลก! คนที่มาเยือน ต่างตกตะลึง ไม่ใช่แค่เพราะวิวทุ่งนาสีเขียวขจี ที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา แต่เพราะ “ความเรียบง่าย ที่งดงามเกินคาด” ของมัน แผ่นไม้ไผ่ที่เรียงกัน อย่างไม่สมบูรณ์แบบ แต่กลับพาใจของผู้คน เดินไปได้ไกลกว่าที่คิด ทุกก้าวย่ำบนสะพาน เต็มไปด้วยเสียงไม้ไผ่ กระทบกันเบา ๆ เหมือนดนตรีธรรมชาติ แถมยังมีเส้นทางแยกเล็ก ๆ ที่พาคุณไปค้นพบ จุดชมวิว และแหล่งท่องเที่ยวลับ ๆ ที่ไม่เคยอยู่ ในแผนการเดินทางมาก่อน

ใครจะคิดว่า สะพานที่สร้างขึ้นเพื่อ “แค่ข้ามไปอีกฝั่ง” จะกลายเป็นสะพานที่เชื่อมโยง “ใจ” ของผู้คนจากทั่วโลก ได้อย่างน่าอัศจรรย์?

หมู่บ้านสันติชล ปาย...

"สายลมแห่งยูนนาน: เรื่องราวของหมู่บ้านสันติชล"

แสงแดดยามเช้า โรยตัวลงบนหลังคาดิน สีส้มอบอุ่นของหมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขา และสายหมอกบาง ๆ หมู่บ้านสันติชล ดูราวกับถูกแช่แข็งไว้ในกาลเวลา บ้านดินหลังเล็ก ๆ เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ โอบล้อมด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาอู่หลง ที่ลอยตามลม...

"เหม่ยเหม่ย! รีบมานี่เร็ว!" เสียงของ อากงหลิว ดังขึ้นกลางลาน หน้าร้านน้ำชาของเขา เสียงนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น จน หลิวเหม่ยเหม่ย หลานสาวตัวน้อย ต้องละสายตาจากสมุดวาดภาพ วิ่งถลามาหา "มีอะไรเหรออากง?"

อากงหลิวชี้ไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เพิ่งเดินเข้าหมู่บ้าน "เห็นมั้ย? วันนี้เราต้องโชว์ ชา 18 ท่า ให้พวกเขาดู! เตรียมตัวช่วยอากงด้วยนะ"

"ชา 18 ท่าอีกแล้วเหรออากง? หนูว่ามันน่าจะเพิ่มเป็น 19 ท่าได้แล้วนะ!" หลิวเหม่ยเหม่ยยิ้มขำ ก่อนจะจับกาน้ำชาใบเล็ก ขึ้นมาแกว่งเบา ๆ

"ฮ่า ๆ ๆ! ถ้าเหม่ยเหม่ยคิดท่าใหม่ได้ อากงจะตั้งชื่อว่า 'ท่ามังกรขี้เกียจ' ให้เลย!" อากงหลิวยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย เต็มไปด้วยความรัก

นักท่องเที่ยวกลุ่มเล็ก ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้า เหม่ยเหม่ยเริ่มแสดงท่ารินชา แบบชาวยูนนาน—จับกาน้ำยกสูง หมุนข้อมืออย่างสง่างาม แล้วปล่อยให้สายน้ำชาไหลลงถ้วยเล็ก ๆ อย่างแม่นยำ เสียง "ว้าว!" จากนักท่องเที่ยว ทำให้เด็กหญิง ยิ้มอย่างภูมิใจ

"ชาของเราน่ะ ไม่ใช่แค่เครื่องดื่มนะคะ" เหม่ยเหม่ยพูดด้วยเสียงใส "มันคือเรื่องราวของบ้านดินที่อบอุ่น เรื่องราวของคนที่ไม่ยอมแพ้ และยังอบอุ่น เหมือนรสชาติของมัน"

อากงหลิวยืนยิ้มเงียบ ๆ ข้างหลัง เขาจำได้ดี ถึงวันที่พ่อแม่เขาอพยพจากยูนนาน มายังดินแดนแห่งนี้ พร้อมความฝันเล็ก ๆ ที่จะสร้างชีวิตใหม่ และวันนี้ ความฝันนั้นอยู่ตรงหน้าเขา กลายเป็นหมู่บ้านสันติชล ที่อบอวลด้วยกลิ่นชา รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ

"บ้านดินเหล่านี้อาจจะไม่ใหญ่โต" อากงหลิวพูดต่อกับนักท่องเที่ยว "แต่พวกมันเก็บความอบอุ่น ไว้ได้ดีกว่าตึกสูง ๆ ในเมืองใหญ่เสียอีก"

ลมเย็น ๆ พัดผ่าน ใบชาแห้งปลิววนในอากาศ ราวกับกำลังเต้นรำ โลกอาจจะเปลี่ยนไปมาก แต่ที่ สันติชล... ความอบอุ่นของชา และรอยยิ้มจริงใจ ยังคงเหมือนเดิมเสมอ.

วัดน้ำฮู้:

"บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในเศียรพระ: เรื่องเล่าจากวัดน้ำฮู้"

ในเช้าวันหนึ่งที่หมอกบาง ๆ คลอเคลียยอดเขา ของเมืองปาย รถของเจซีทัวร์ค่อย ๆ ลัดเลาะไปตามเส้นทางเล็ก ๆ ท่ามกลางทิวเขาเขียวขจี จุดหมายปลายทาง คือ “วัดน้ำฮู้” วัดเก่าแก่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ แต่เปี่ยมไปด้วย มนต์เสน่ห์ที่แม้กาลเวลา ก็ไม่อาจลบเลือน

เมื่อก้าวเข้าสู่เขตวัด สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 500 ปี สงบเงียบแต่เปี่ยมไปด้วยบารมี แต่สิ่งที่ทำให้นักเดินทาง จากทุกมุมโลกต้องมา หยุดยืนจ้องมองด้วยความฉงน กลับไม่ใช่เพียงองค์พระ... แต่คือบ่อน้ำเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในเศียร ของพระพุทธรูปนั้นเอง

"ตักน้ำออกไปเท่าไหร่... ไม่นานมันก็เต็มเหมือนเดิม" หลวงตาเพ่ง พระชราผู้ดูแลวัด เล่าอย่างเรียบง่าย ขณะยื่นขันเงินเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ลองตักน้ำออกด้วยตัวเอง เสียงน้ำหยดแผ่วเบา ดังสะท้อนในศาลาเงียบสงบ ราวกับเสียงของกาลเวลา ที่ผ่านไปไม่รู้จบ

"มันมาได้ยังไงกัน?" นักท่องเที่ยวถาม พลางมองลงไปในบ่อเล็ก ๆ อย่างสงสัย

หลวงตายิ้มมุมปาก ดวงตาเปี่ยมด้วยความสงบ "พุทธองค์ตรัสไว้ว่า ‘อย่าหมกมุ่นกับสิ่งที่เป็นอจินไตย’ ไม่ใช่เพราะไม่ให้สงสัย แต่เพราะบางเรื่อง... ไม่ต้องการคำตอบ"

เสียงลมพัดผ่านเบา ๆ พัดเอาใบไม้แห้ง ปลิวไปตามทาง เหมือนจะเน้นย้ำ คำพูดของหลวงตา นักท่องเที่ยวคนนั้น ยืนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ "บางที... แค่ได้มาเห็นก็เพียงพอแล้ว"

วัดน้ำฮู้ ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่มันคือ บทเรียนที่ไม่มีคำตอบ สอนเราว่าในโลกใบนี้ ไม่ใช่ทุกอย่างที่ต้องการเหตุผล บางครั้ง… แค่ยอมรับความงดงาม และความมหัศจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ใจสงบ

และนั่นเอง คือเหตุผลที่เจซีทัวร์ ต้องพาคุณมาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อหาคำตอบ แต่เพื่อสัมผัสความสงบ ที่ไม่ต้องการคำอธิบาย

จุดชมวิวหยุนไหล

จุดชมวิวหยุ่นไหล: สายน้ำหมอกแห่งรักและการเดินทาง

ณ ยอดดอยอันสงบเงียบ จุดชมวิวหยุ่นไหล ยืนตระหง่านอย่างสง่างาม โอบกอดด้วยทิวเขา และทะเลหมอก ที่ไม่เคยหายไป ไม่ว่าฟ้าจะโปร่ง หรือฝนจะตก หมอกสีขาวนวลจะค่อย ๆ ไหลรวมจากทุกทิศทาง ราวกับถูกเรียก โดยสายลมที่รู้หน้าที่ของตัวเอง ที่นี่ “หยุ่นไหล” ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อ แต่เป็นคำสัญญาของธรรมชาติ ว่าความงดงาม จะมารวมตัวกันที่จุดนี้ ทุกวัน ไม่ต้องเลือกฤดูกาล ไม่ต้องรอจังหวะพิเศษ เพราะสายหมอก จะมอบความมหัศจรรย์ให้เสมอ

บางคนเล่าว่า “หยุ่นไหล” ไม่ได้หมายถึง เพียงแค่การไหลมาของหมอก แต่ยังเป็นการเปรียบเปรย ถึง ชาวจีนยูนนาน ที่ครั้งหนึ่ง ได้เดินทางข้ามผ่านภูเขา และหุบเขา เพื่อมารวมตัวกัน บนยอดดอยแห่งนี้ สร้างชุมชนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม และความอบอุ่น ราวกับหมอก ที่แยกจากกันมาไกล แต่สุดท้ายก็ไหลมาพบกันเสมอ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย ที่จุดนี้กลายเป็น สถานที่ยอดนิยมในการ บอกรักหรือขอแต่งงาน เพราะที่นี่สอนเราว่า ไม่ว่าจะเดินทาง ผ่านเส้นทางที่ยากเย็นเพียงใด… สุดท้ายทุกหัวใจที่แท้จริง จะมาพบกัน ณ จุดหมายเดียวกัน เหมือนหมอกที่ไม่เคยหลงทาง

ร้านกาแฟ Coffee In Love..

Coffee In Love: จิบกาแฟในวิวที่ทำให้ทุกหยดมีความหมาย

หากคุณคิดว่า ร้านกาแฟ ก็แค่ร้านกาแฟ ลองมาที่ “Coffee In Love” แล้วคุณจะเปลี่ยนใจ เพราะที่นี่ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟธรรมดา… มันคือสถานที่ ที่ทำให้ทุกแก้วของคุณ เต็มไปด้วยความรู้สึก ที่นี่คือจุดพักเบรกในทริป ที่ไม่เพียงแค่ ให้คุณได้จิบกาแฟหอมกรุ่น แต่ยังเปิดโอกาส ให้หัวใจได้หายใจเต็มปอด ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่งดงาม จนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรให้ครบ

ลองจินตนาการ ถึงการยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ อากาศเย็น ๆ ลมอ่อน ๆ พัดผ่านใบหน้า ท้องฟ้าเปิดกว้าง เผยให้เห็นขุนเขา และทุ่งหญ้า ที่ทอดยาวไปจนสุดสายตา ทุกจิบของกาแฟร้อน ๆ กลายเป็นมากกว่าความหอม และรสชาติ แต่มันกลับอบอวล ไปด้วยความรู้สึก ที่ยากจะอธิบาย ราวกับว่ากาแฟแก้วนั้น “กลั่นมาจากความงดงาม ของวิวรอบตัว”

จริง ๆ แล้ว ถ้าไม่มีร้านกาแฟอยู่ตรงนี้ ผู้คนก็ยังต้องหยุดรถ ลงมาชื่นชมวิวอยู่ดี เพราะ “โลเคชั่นนี้ งดงาม เกินกว่าจะขับผ่านไปเฉย ๆ” แต่โชคดี ที่มีร้านกาแฟอยู่ตรงนี้ ทำให้เราได้ทั้งวิวสวย ๆ และกาแฟดี ๆ ไปพร้อมกัน จนอดคิดไม่ได้ว่า… “ที่นี่น่าจะขายวิว แถมกาแฟ” มากกว่า! และในทริปนี้ เจซีทัวร์ยินดีดูแลค่าใช้จ่าย ทุกแก้วของคุณ เพราะเราเชื่อว่า กาแฟจะอร่อยที่สุด เมื่อได้ดื่มมัน พร้อมกับวิวที่ทำให้หัวใจคุณยิ้ม

กองแลน ปายแคนยอน

กองแลน (ปายแคนยอน): เส้นทางแห่งแสงและเงา บนพื้นโลกที่สร้างสรรค์ด้วยตัวมันเอง

เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มเอียงตัวลงต่ำ เผยแสงสุดท้ายของวัน คุณจะได้พบกับ ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ที่ถูกสลักไว้ บนผืนแผ่นดินแห่งนี้ “กองแลน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ปายแคนยอน” สถานที่ที่ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของโลก ที่ไม่เคยหยุดเปลี่ยนแปลง

กองแลน ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผืนดินแห้งแตกร้าว มันคือ "บทกวีของธรรมชาติ" ที่ถูกแต่งขึ้นด้วยสายลม แสงแดด และกาลเวลา เส้นทางเล็ก ๆ ที่แคบและสูงชัน ทอดยาวเหมือนสันหลังของมังกรดิน ยืนอยู่ตรงนั้น คุณจะรู้สึก เหมือนกำลังเดินอยู่บนขอบโลก ขอบที่แยกระหว่างท้องฟ้า กับผืนดิน อย่างน่าทึ่ง

ในช่วงเย็น ๆ ตามแผนของแพ็คเกจนี้ เราจะพาคุณมาหยุดที่นี่ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับ "การแสดงของธรรมชาติ ที่ไม่มีวันซ้ำกัน" แสงของพระอาทิตย์จะค่อย ๆ ระบายสีทองอ่อนลงบนเนินดิน ตัดกับเงาของหน้าผา สูงต่ำที่ซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ เหมือนจิตรกร ที่วาดภาพด้วยแสงและเงา ไล่โทนอย่างบรรจง

ไม่เพียงแค่ดวงอาทิตย์ที่งดงาม แต่คุณจะได้เห็น “ทะเลหมอก” ลอยอ้อยอิ่ง เหนือยอดไม้สีเขียวเข้มของป่า ทอดตัวยาวไปจรดขอบฟ้า “ภูเขา” ที่ซ้อนกันอย่างมีจังหวะ ราวกับบทเพลงเงียบ ๆ ของโลก และถ้าสังเกตดี ๆ คุณจะเห็นเงาของ “แม่น้ำปาย” เลื้อยไหลเหมือนเส้นด้ายเงิน ที่ถักทอเรื่องราวของธรรมชาติ

กองแลนสอนเราว่า โลกไม่ได้ต้องการเครื่องประดับหรูหรา เพื่อแสดงความงดงาม “แค่ดิน หิน ลม และแสง” ก็เพียงพอแล้ว ที่จะสร้างความมหัศจรรย์ จนคุณไม่อาจละสายตาได้เลย

ถนนคนเดิน ปาย

ถนนคนเดินปาย: เสน่ห์แห่งความสงบที่เต็มไปด้วยชีวิต

เมื่อแสงสุดท้ายของวัน ค่อย ๆ ละลายหายไปกับขอบฟ้าเล็ก ๆ ของเมืองปาย ถนนคนเดินปาย หรือที่หลายคนเรียกว่า “Walking Street ปาย” จะเริ่มตื่นขึ้นอย่างเงียบ ๆ ในแบบที่ ไม่ต้องใช้เสียงดัง หรือแสงไฟจ้า เพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะเสน่ห์ของที่นี่ ไม่ใช่ความวุ่นวาย แต่มันคือ “ความสุข ที่แอบอยู่ในความเงียบสงบ” นั่นเอง

เดินทอดน่องไปตามถนน ที่ปูด้วยความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนา คุณจะพบกับรอยยิ้มอบอุ่น ของพ่อค้าแม่ค้าในร้านเล็ก ๆ ที่จัดเรียงสินค้าอย่างประณีต สินค้าทำมือ (Handmade) แกะสลักลวดลายลงบนไม้ ผ้าทอสีสันสดใส ที่ถักทอด้วยความรัก และของที่ระลึกเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะกระซิบกับคุณ ว่า “พาฉันกลับบ้านด้วยนะ”

กลิ่นหอมของอาหารพื้นเมือง ลอยมาแตะจมูก ข้าวปุกงา ข้าวซอย น้ำเงี้ยว หรือจะเป็นโรตีกล้วยหอมร้อน ๆ ที่แผ่นแป้งกรอบนอกนุ่มใน หยุดแวะตรงไหนก็ได้ เพราะที่นี่ไม่มีคำว่ารีบร้อน ถนนเส้นนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณ ได้ “เดินช้า ๆ แล้วซึมซับความสุข ในทุกก้าว”

และแม้จะเป็นถนนคนเดิน แต่ที่นี่ก็เต็มไปด้วย “เสียง” เสียงของกีตาร์โปร่งเบา ๆ จากนักดนตรีข้างถนน เสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยว ที่เพิ่งลองกินของแปลกใหม่ หรือเสียงกระซิบของลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านสองข้างทาง เสียงเหล่านี้คือ “ดนตรีของปาย” ที่เล่นอยู่ในใจคุณ โดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง

ถ้าจะนิยาม Walking Street ปาย ในคำเดียว คงเป็นคำว่า “สุขสงบ” เพราะที่นี่ ไม่ใช่แค่ถนนสำหรับเดินเล่น แต่มันคือเส้นทาง ที่พาคุณเดินเข้าไป หาความสุขเล็ก ๆ ในหัวใจ ความสุขที่ไม่ต้องการอะไร มากไปกว่าอากาศเย็น ๆ รอยยิ้มของคนแปลกหน้า และความเงียบสงบ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว

สะพานประวัติศาสตร์ ปาย

สะพานเหล็กข้ามแม่น้ำปาย: รอยต่อของอดีตอันโหดร้ายกับความงดงามที่ไม่จางหาย

ครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ที่เต็มไปด้วยเสียงปืน และความเจ็บปวด ของสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานเหล็กข้ามแม่น้ำปาย ถูกสร้างขึ้นโดยทหารญี่ปุ่น ในฐานะเส้นทางยุทธศาสตร์ สะพานแห่งนี้ เคยเป็นเพียงแค่โครงเหล็กเย็นชา ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำ ด้วยจุดประสงค์เดียว เพื่อการเคลื่อนทัพ ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด และความโหดร้าย แต่เมื่อกาลเวลาค่อย ๆ ละลายความขมขื่นลงไป ในกระแสน้ำ สิ่งที่เหลืออยู่ กลับไม่ใช่เงาของสงคราม หากแต่เป็น สะพานแห่งความสงบ ที่เชื่อมโยงหัวใจของผู้คน เข้ากับความงดงามของธรรมชาติ

วันนี้ เมื่อคุณก้าวเท้าลงบนสะพานเหล็กแห่งนี้ เสียงฝีเท้าที่เคยก้องกังวาน ด้วยความเร่งรีบของทหารในอดีต ได้ถูกแทนที่ด้วย เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของนักเดินทาง ที่มาเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำปาย สายน้ำใสไหลเอื่อยใต้สะพาน สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็น ราวกับกระจกธรรมชาติ ที่บันทึกภาพความสงบ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภูเขาสีเขียว ที่เคยเป็นฉากหลังของสงคราม บัดนี้กลายเป็นฉากหลังของภาพถ่าย ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสุข

ไม่มีเศษซากของสงครามใด จะคงอยู่ได้นาน เท่ากับพลังของธรรมชาติ ความงดงามของท้องฟ้า สายน้ำ และลมเย็น ที่พัดผ่านสะพานเหล็กแห่งนี้ ได้ลบเลือนร่องรอย ของความเจ็บปวดไปจนเกือบสิ้น สะพานที่เคยสร้างขึ้น เพื่อข้ามผ่านสงคราม วันนี้กลับกลายเป็นสะพาน ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน เชื่อมโยงความโหดร้าย กับความสงบ และเชื่อมโยงหัวใจของนักเดินทาง กับบทเรียนสำคัญว่า ไม่ว่าความมืด จะเคยปกคลุมมากเพียงใด แสงแห่งความงดงาม ก็จะค่อย ๆ กลับมาเสมอ

น้ำพุร้อน "ออนเซน" แห่งเมืองปาย

น้ำพุร้อนไทรงาม: อบอุ่นกาย สดชื่นใจ ท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์

ลึกเข้าไปในผืนป่าเขียวขจี ของภาคเหนือ ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบ ภายใต้เงาไม้ใหญ่ และสายหมอกบาง ๆ ตลอดวัน “น้ำพุร้อนไทรงาม” คือหนึ่งในขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติ ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อน แบบเหนือระดับ ที่นี่ไม่ใช่แค่แหล่งน้ำพุร้อนธรรมดา แต่คือ “ออนเซ็นกลางป่า” ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น อย่างลงตัว

น้ำแร่ธรรมชาติ อุณหภูมิระหว่าง 40-50 องศาเซลเซียส ไหลผ่านโขดหินเล็ก ๆ และลานหินธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำ คงความใสสะอาดอยู่เสมอ บางจุดมีลักษณะคล้าย น้ำตกเล็ก ๆ ที่น้ำอุ่น ๆ ไหลลดหลั่นลงมา สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ต่างจากการได้แช่ออนเซ็น ในบ่อน้ำแร่หรูหรา แต่แตกต่างตรงที่ที่นี่ ทุกอย่างคือของขวัญ จากธรรมชาติแท้ ๆ

ลองนั่งแช่น้ำอุ่น ท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่น ร่างกายอบอุ่น แต่ลมหายใจเต็มไปด้วย กลิ่นอายของป่าดิบชื้น ไอน้ำอุ่น ลอยกระทบกับสายลมเย็นบาง ๆ ให้ความรู้สึกตัดกัน อย่างสมบูรณ์แบบ ความร้อนจากน้ำแร่ จะค่อย ๆ ปลดปล่อย ความตึงเครียด ในกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่า ทุกหยดน้ำ กำลังช่วยล้างความเหนื่อยล้า ของชีวิตประจำวัน ออกไปทีละน้อย

ที่นี่ คุณจะไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งกับเวลา แค่ ปล่อยใจให้ลอยไป ตามเสียงของสายน้ำ เสียงใบไม้ไหว และเสียงลมหายใจ ของตัวเอง น้ำพุร้อนไทรงาม ไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น แต่ยังทำให้จิตใจสงบ และกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สุขภาพดีที่แท้จริง เริ่มต้นจากการเชื่อมโยง กับธรรมชาติอย่างแท้จริง และที่นี่คือ สถานที่ที่สมบูรณ์แบบ สำหรับสิ่งนั้น.

ดอยแม่สลอง (เชียงราย)

ดอยแม่สลอง: การบำบัดที่บริสุทธิ์ที่สุดจากธรรมชาติ

บนยอดสูงของ ดอยแม่สลอง ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ที่สดชื่นจนแทบไม่ต้องหายใจลึก คุณจะพบกับความเรียบง่าย ของชีวิตที่งดงาม เกินคำบรรยาย ที่นี่ไม่มีเสียงของเครื่องจักร ไม่มีแสงไฟนีออนกระพริบพร่ามัว มีเพียง ทิวไร่ชา ที่ทอดยาวสุดสายตา โอบล้อมด้วยดอกซากุระดอย ที่บานสะพรั่งสีชมพูหวาน ดอกไม้เมืองหนาว ที่แต้มสีสันให้ผืนดิน และป่าสมบูรณ์ ที่คอยกระซิบเสียงลมให้จิตใจสงบ ความงดงามของที่นี่ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ แต่คือผลงานชิ้นเอก ของธรรมชาติที่ ไม่ต้องการการแต่งแต้มใด ๆ ก็เพียงพอที่จะ “ชาร์จแบตเตอรี่หัวใจ” ของคุณให้เต็มได้ในทันที

ที่ดอยแม่สลอง “การบำบัด” ไม่ได้มาจากยา หรือเครื่องมือไฮเทคใด ๆ แต่มาจากสิ่งที่เรียกว่า “Virgin แห่งธรรมชาติ” ความบริสุทธิ์ของอากาศ ความจริงใจของผู้คน ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความสุข ไร่กาแฟ ที่ปลูกด้วยมือ และหัวใจ เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นท่ามกลางสายหมอก และลมหายใจแรกในยามเช้า ที่เต็มไปด้วยกลิ่นดิน และใบไม้ ไม่มีอะไรที่มนุษย์สร้างขึ้น จะงดงามได้เท่านี้อีกแล้ว เพราะสุดท้าย “ความสุขที่แท้จริง” ไม่ได้ซ่อนอยู่ในเมืองใหญ่ แต่มันแอบอยู่ในสายลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านยอดเขานี้เสมอ.

Art City... เมืองแห่งศิลปะ เชียงราย วัดร่องขุ่น วัดร่องเสือเต้น และวัดห้วยปลากั้ง

วัดร่องขุ่น (White Temple)
ผลงานศิลปะระดับโลก ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยความมุ่งมั่น และศรัทธา วัดร่องขุ่น โดดเด่นด้วยสีขาวบริสุทธิ์ ที่เปล่งประกายราวกับเพชร ท่ามกลางแสงแดด รายละเอียดของลวดลายปูนปั้น เต็มไปด้วยความประณีต งดงามดั่งงานศิลป์ชั้นสูง สะพานที่ทอดข้ามสระน้ำ เปรียบเสมือน “เส้นทางสู่สวรรค์” ทำให้ทุกย่างก้าว ของผู้มาเยือน เต็มไปด้วยความหมาย ไม่ใช่แค่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่คือ “ศิลปะแห่งจิตวิญญาณ” ที่สะท้อนถึงการพ้นทุกข์ ในแบบฉบับล้านนาร่วมสมัย

วัดร่องเสือเต้น (Blue Temple)
วัดอัญมณีสีน้ำเงิน ที่สะดุดตาด้วยสถาปัตยกรรม ศิลปะล้านนาแบบประยุกต์ ผสมผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัว สีฟ้าเข้มสด ตัดกับลวดลายสีทอง ทำให้วัดเปล่งประกาย ดั่งอัญมณีล้ำค่า ทุกมุมของวัด เต็มไปด้วยรายละเอียด ที่แฝงไปด้วยความหมาย ทางจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็น พระพุทธรูปสีขาวบริสุทธิ์ ในอุโบสถ ที่ตัดกับพื้นหลังสีน้ำเงิน หรือรูปปั้นพญานาค ที่งดงามราวกับมีชีวิต วัดร่องเสือเต้น คือสถานที่ที่ทำให้คุณ รู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ใน “ดินแดนแห่งศิลปะ และความศรัทธา” อย่างแท้จริง

วัดห้วยปลากั้ง (Wat Huay Pla Kang)
ตั้งอยู่บนเนินเขา ที่ลมเย็นพัดผ่านตลอดปี วัดห้วยปลากั้ง โดดเด่นด้วย องค์พระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ สูงเทียบเท่าตึก 10 ชั้น ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล สะท้อนถึงพลังแห่งความเมตตา และศรัทธา นอกจากนี้ ยังมี เจดีย์พบโชค 9 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นประดับด้วย งานแกะสลักไม้จันทน์หอม ของพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่งดงามและประณีตอย่างน่าทึ่ง เมื่อย่างก้าวเข้าสู่เขตวัด คุณจะสัมผัสได้ถึง “สายลมแห่งบุญ” ที่พัดเข้ามาทักทาย ทำให้จิตใจสงบ และเต็มไปด้วยความสุข อย่างน่าอัศจรรย์

ไร่ชา...101

ไร่ชา 101 ดอยแม่สลอง: ทะเลสีเขียวแห่งความทรงจำ

เมื่อรถค่อย ๆ ไต่ขึ้นสู่ยอดดอยแม่สลอง ไร่ชา 101 ปรากฏตรงหน้า เหมือนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ ที่ธรรมชาติใช้พู่กัน ระบายสีเขียวหลายเฉด ไว้อย่างลงตัว ที่นี่ “ทะเลสีเขียว” ไม่ได้เป็นเพียงคำเปรียบเปรย แต่คือภาพจริง ที่คุณจะได้สัมผัส แถวของต้นชาที่ปลูก อย่างเรียงรายเป็นระเบียบ โค้งเวียนไปตามแนวเขาอย่างงดงาม ราวกับระลอกคลื่นของทะเลสีมรกต ที่ไม่มีวันสิ้นสุด

อากาศที่นี่ เย็นสดชื่นตลอดปี สายลมบาง ๆ พัดพาเอากลิ่นหอมของ ชาอู่หลง มาแตะจมูกอย่างแผ่วเบา เมื่อได้ลองชิมชาแก้วแรก คุณจะรู้สึกถึงความนุ่มลึก รสชาติที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ จากดิน น้ำ และอากาศ ของดอยสูง ไม่ใช่แค่รสชาติในปาก แต่คือ “รสชาติของธรรมชาติ” ที่แทรกซึมเข้าสู่หัวใจ

ท่ามกลางทะเลเขียวนี้ มีไม้ดอกเมืองหนาว แต่งแต้มสีสันเพิ่มความสดใส ดอกไม้เล็ก ๆ สีชมพู ม่วง และขาว เบ่งบาน ท่ามกลางแสงแดดอ่อน ๆ สะท้อนความงาม ที่ไม่ต้องการการปรุงแต่งใด ๆ การได้ยืนมอง วิวกว้างไกลสุดสายตา สูดลมหายใจลึก ๆ ท่ามกลางทิวเขาสลับซับซ้อน และอากาศหนาวเย็น ที่แตะผิว คือ “การบำบัดหัวใจ” ในแบบที่คำพูด ไม่อาจบรรยายได้

ไม่แปลกใจเลย ที่นักเดินทางหลายคน จะติดโรคที่เรียกว่า "Period of Hyperthymesia" เพราะความทรงจำ เกี่ยวกับที่นี่ จะชัดเจน สดใส และอยู่กับคุณไปนานแสนนาน เหมือนรสของชาอู่หลง ที่หอมกรุ่นไม่เคยจางหาย

ดอยม่อนแจ่ม

ดอยม่อนแจ่ม: สัมผัสอากาศหนาว สายหมอก และความงดงามที่ไม่สิ้นสุด

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่ ดอยม่อนแจ่ม สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้คือ อากาศเย็นสดชื่น ที่โอบล้อมร่างกายไว้ ราวกับอ้อมกอดของธรรมชาติ ลมหายใจแรก ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ผสมกลิ่นหอมจาง ๆ ของดอกไม้เมืองหนาว ที่บานสะพรั่งทั่วทั้งดอย มองไปทางไหน ก็จะเห็นทุ่งดอกไม้หลากสีสัน ทั้งดอกคัตเตอร์สีขาว ดอกมากาเร็ตสีม่วง และดอกบานชื่นสดใส แปลงดอกไม้เหล่านี้ ไม่เพียงแต่งแต้มสีสันให้กับภูเขา แต่ยังแต่งแต้ม รอยยิ้ม ให้กับผู้มาเยือนทุกคน

หากทอดสายตา มองออกไปไกลสุดขอบฟ้า คุณจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ราวกับ ผืนพรมสีเขียวขจี ที่ถูกทอด้วยมือของธรรมชาติ เมื่อสายลมเย็นพัดผ่าน สายหมอกบาง ๆ ก็ลอยเอื่อย ๆ ผ่านตัวคุณ ให้ความรู้สึก เหมือนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางเมฆ ในมุมหนึ่งจะมี เด็กชาวเขาในชุดประจำเผ่า ยืนส่งยิ้มหวาน ต้อนรับนักท่องเที่ยว ดวงตาของพวกเขา เต็มไปด้วยความใสซื่อ และความอบอุ่น ที่ทำให้หัวใจละลาย

และสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด เมื่อมาถึงม่อนแจ่มคือ กิจกรรมขับรถแม้ว หรือรถเลื่อนพื้นบ้านแบบดั้งเดิม ที่ทำจากไม้ ลองปล่อยตัวเอง ให้ไหลไปตามแรงโน้มถ่วง ของเส้นทางดินแดงเล็ก ๆ สัมผัสลมเย็นตีหน้าอย่างอิสระ ความตื่นเต้นแบบเรียบง่ายนี้ คือ ความอัศจรรย์ที่ไม่ต้องการเทคโนโลยี มีเพียงแค่ล้อไม้ เส้นทางธรรมชาติ และหัวใจที่เต้นแรงด้วยความสนุก

ดอยม่อนแจ่ม ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่คือ ประสบการณ์ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ความสงบ และธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ที่นี่คือสถานที่ ที่หัวใจของคุณ จะได้รับการเยียวยา เพียงแค่ได้อยู่

ดอยสุเทพ พระธาตุที่มองทุกมุม ไม่เคยเบื่อ..

พระธาตุดอยสุเทพ: สัญลักษณ์แห่งเชียงใหม่ ที่งดงามเหนือกาลเวลา

เมื่อเอ่ยถึงเชียงใหม่ ไม่มีสถานที่ใด ที่จะสะท้อนถึงจิตวิญญาณ ของเมืองล้านนาได้ชัดเจน เท่ากับ “พระธาตุดอยสุเทพ” ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่ ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ แต่คือ “เครื่องหมายแห่งเชียงใหม่” ที่ยืนหยัดคู่กับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และหัวใจของผู้คน มานานนับศตวรรษ

ศิลปะล้านนาอันอ่อนช้อย ถูกถ่ายทอดผ่าน เจดีย์สีทองอร่าม ที่ส่องประกาย ท่ามกลางแสงแดด และสายหมอกบนยอดดอยสุเทพ ความประณีตของลวดลายปูนปั้น บันไดนาคยาวนับร้อยขั้น และองค์พระธาตุ ที่ถูกบรรจงสร้างอย่างวิจิตรบรรจง ล้วนเต็มไปด้วย ความหมายทางจิตวิญญาณ ทุกองค์ประกอบ ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงามทางกาย แต่คือ “สัญลักษณ์ของศรัทธา” ที่เชื่อมโยงมนุษย์ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง

ยิ่งไปกว่านั้น ทำเลที่ตั้ง ของพระธาตุดอยสุเทพ บนยอดดอยสูง ที่มองเห็นวิวของเมืองเชียงใหม่ ได้แบบพาโนรามา ยิ่งทำให้ที่นี่ แตกต่างและมีมนต์ขลัง อย่างไม่เหมือนใคร เมื่อยืนอยู่บนลานวัด มองลงไปจะเห็นเมืองเชียงใหม่ ที่แผ่ขยายออกไปสุดสายตา โดยมีภูเขาและท้องฟ้า เป็นฉากหลัง เสียง ดนตรีทางศาสนา ที่บรรเลงแผ่วเบา เคล้าไปกับสายลมเย็น ทำให้ทุกย่างก้าว เต็มไปด้วยความสงบ และความสุขในใจ

ไม่ว่าคุณ จะเคยมาที่นี่กี่ครั้ง “พระธาตุดอยสุเทพ” ก็ไม่เคยทำให้รู้สึกซ้ำซาก เพราะทุกครั้งที่มา คือการได้พบกับมุมมองใหม่ ความรู้สึกใหม่ และความสงบในใจ ที่แตกต่างออกไป สำหรับนักเดินทางที่มาเยือนเชียงใหม่ ที่นี่คือจุดหมายปลายทาง ที่ไม่อาจพลาดได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความงดงา มทางสถาปัตยกรรม แต่เพราะ “พระธาตุดอยสุเทพ” คือหัวใจของเชียงใหม่ อย่างแท้จริง

	โปรแกรม
	วันที่ 1: ทัวร์เชียงราย 08:00 น. ทีมงานมัคคุเทศก์ประจำกลุ่ม พร้อม Service Crew ให้การต้อนรับท่านลูกค้า ที่สนามบินเชียงราย อย่างอบอุ่น มัคคุเทศก์แนะนำตัว พร้อมแนะนำคนขับรถ ที่สุภาพ และผ่านการอบรมด้านการให้บริการ ลูกค้าระดับสูง อธิบายโปรแกรมทัวร์โดยสังเขป เพื่อให้ท่านทราบ ถึงแผนการเดินทางในวันนี้ 08:30 น. เริ่มต้นการเดินทางสู่ วัดร่องเสือเต้น ชมความงดงาม ของวัดสีน้ำเงิน ที่สร้างขึ้นด้วยแนวคิด ศิลปะล้านนาสมัยใหม่ ผสมผสานกับ ความวิจิตรตระการตา ของลวดลายประดับสีฟ้าสด ภายในประดิษฐาน พระประธานสีขาวบริสุทธิ์ เงางามราวกับมุก 09:30 น. เดินทางต่อไปยัง วัดห้วยปลากั้ง สักการะองค์พระแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ตั้งตระหง่านบนเนินเขา สามารถมองเห็นได้ จากระยะไกล ชมเจดีย์พบโชค ที่วิจิตรงดงาม ภายในประดิษฐาน องค์พระแม่กวนอิมแกะสลัก จากไม้จันทน์หอม ครบทุกปาง 11:00 น. แวะเที่ยวชม ไร่สิงห์ (Singha Park) นั่งรถรางนำชมไร่ขนาดใหญ่ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ แปลงเกษตรกรรม ไร่ชา ไร่องุ่น และแปลงดอกไม้ แวะถ่ายภาพกับสัญลักษณ์ สิงห์สีทอง กลางไร่อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของเชียงราย ลิ้มลองเมนูอาหารเหนือแท้ ๆ อาทิ แกงฮังเล น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว และข้าวเหนียวนุ่ม 13:00 น. เดินทางต่อไปยัง วัดร่องขุ่น (White Temple) ชมความงดงาม ของสถาปัตยกรรมสีขาวบริสุทธิ์ สะท้อนแสงระยิบระยับ ราวกับคริสตัล สำรวจลวดลายศิลปะ ที่สอดแทรกแนวคิด เกี่ยวกับธรรมะและชีวิต 14:30 น. เดินทางขึ้นสู่ ไร่ชา 101 ดอยแม่สลอง ชมความงดงาม ของไร่ชา ที่ทอดยาวตามแนวภูเขา ถ่ายภาพกับวิวไร่ชาสุดอลังการ และเพลิดเพลินกับการชิมชา พร้อมเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว (รวมในแพ็กเกจ) 15:30 น. แวะเยี่ยมชม สุสานนายพลต้วน เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ของผู้นำทหารจีนคณะชาติ (ก๊กมินตั๋ง) ที่มีบทบาทสำคัญ ในพื้นที่ดอยแม่สลอง 16:30 น. เดินทางต่อไปยัง พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ชื่นชมวิวพระอาทิตย์ตกสุดงดงาม จากจุดชมวิวมุมสูง พร้อมสัมผัสอากาศเย็นสดชื่น (แนะนำให้เตรียมเสื้อกันหนาว) 18:00 น. เช็คอินเข้าที่พัก ณ รีสอร์ทดอยหมอกดอกไม้ บนดอยแม่สลอง พักผ่อนตามอัธยาศัย ในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ 19:00 น. รับประทานอาหารเย็นสไตล์จีนยูนนาน เพลิดเพลินกับเมนูอาหารจีนแท้ ๆ เช่น ขาหมูหมั่นโถว ผัดผักท้องถิ่น และชาอุ่น ๆ ตบท้ายมื้ออาหาร   พักผ่อนตามอัธยาศัย เตรียมตัวสำหรับการผจญภัย ในวันถัดไป วันที่ 2: เชียงราย-เชียงใหม่ 06:00 น. ตื่นเช้ารับอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางสายหมอกยามเช้า ที่โอบล้อมรีสอร์ท พร้อมสัมผัสกับความสดชื่น ของน้ำค้างบนสวนดอกไม้ รอบ ๆ ที่พัก เพลิดเพลินกับช่วงเวลาแห่งความสุข จิบกาแฟหรือชาร้อน ๆ ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงาม ของดอยแม่สลอง 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท เติมพลังสำหรับการเดินทางในวันนี้ 08:00 น. ทำการเช็คเอาต์ ออกจากรีสอร์ทบนดอยแม่สลอง พร้อมออกเดินทางมุ่งหน้า สู่จังหวัดเชียงใหม่ 10:30 น. เยี่ยมชมดอยปุย สวนดอกไม้เมืองหนาว ที่เบ่งบานอย่างงดงาม หลากสีสัน สำรวจหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น และวิถีชีวิตเรียบง่าย แวะชมพิพิธภัณฑ์ชาวเขา เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ สามารถสวมใส่ชุดชาวเขาสวยงาม เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก (มีบริการให้เช่า) เดินเล่นเลือกซื้อของฝาก และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น จากร้านค้าของชาวเขา เช่น งานฝีมือผ้าปัก และสมุนไพรพื้นบ้าน 11:30 น. นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ ชื่นชมความงดงาม ของสถาปัตยกรรมล้านนา อันวิจิตรตระการตา เดินขึ้นบันไดนาค 306 ขั้น (หรือนั่งรถรางไฟฟ้า) เพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ของเมืองเชียงใหม่จากมุมสูง 13:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้าน "ฮิมธาร เชิงดอย" เพลิดเพลินกับมื้ออาหาร ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติริมน้ำ พร้อมเสิร์ฟเมนูพื้นเมือง และอาหารไทยแสนอร่อย 14:00 น. เปิดประสบการณ์ใหม่ ในการเดินทางย้อนอดีต สู่เมืองโบราณเวียงกุมกาม ที่เคยจมหาย ใต้แผ่นดิน นั่งรถม้าโบราณ ชมโบราณสถานต่าง ๆ ในเขตเมืองเก่า พร้อมคำบรรยาย จากมัคคุเทศก์ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล สำรวจซากวัดโบราณ และโครงสร้างสถาปัตยกรรม ที่ยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงปัจจุบัน 15:30 น. นมัสการพระธาตุดอยคำ ศาสนสถานเก่าแก่ ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,300 ปี กราบไหว้ขอพรจาก "หลวงพ่อทันใจ" องค์พระศักดิ์สิทธิ์ ที่มีชื่อเสียงเรื่อง การขอพรให้สมหวัง ชมวิวทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ จากมุมสูง พร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก กับบันไดพญานาคอันวิจิตร 16:30 น. เยี่ยมชมวัดเจดีย์หลวง หนึ่งในวัดสำคัญของเชียงใหม่ ที่มีเจดีย์ขนาดใหญ่ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สัมผัสกับความขลัง ของสถาปัตยกรรมโบราณ ที่ได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่พลาดโอกาส ในการเก็บภาพบรรยากาศ อันสวยงามของวัดแห่งนี้ 18:00 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ร้าน "ริมปิง" อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารไทย และอาหารพื้นเมือง ในบรรยากาศสบาย ๆ ริมแม่น้ำปิง 19:00 น. เช็คอินเข้าสู่โรงแรม "Le Méridien Chiang Mai" โรงแรมหรู ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ทำเลดีที่สุดติดกับเชียงใหม่ ไนท์บาซาร์ พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือออกเดินเล่นชิล ๆ ที่ไนท์บาซาร์ ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสี และร้านค้าหลากหลาย สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนที่คึกคัก พร้อมเลือกซื้อของฝาก หรือเพลิดเพลิน กับการแสดงท้องถิ่น พักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการเดินทางในวันถัดไป วันที่ 3: เชียงใหม่ - ปาย 06:30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท เพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการเดินทางในวันนี้ 08:00 น. มัคคุเทศก์ทักทายและดูแลทุกท่าน ตั้งแต่เช้า ทำการเช็คเอาต์ออกจากรีสอร์ท แล้วออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน "ปาย" อาจไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นสถานที่ที่เปรียบได้กับ สวรรค์บนดิน ด้วยธรรมชาติที่งดงาม และบรรยากาศแสนสงบ 10:30 น. แวะชม สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย สะพานเหล็กเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้ในการขนส่งเสบียง และยุทธปัจจัย เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ บนสะพานที่ทอดยาว ข้ามแม่น้ำปาย ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย ของสายหมอกยามเช้า ต่อไปยัง Coffee In Love ร้านกาแฟสุดฮิต ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ทุกมุมเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงาม นั่งจิบกาแฟเพลิน ๆ พร้อมชมวิวเมืองปาย และทุ่งนาเบื้องล่าง แบบพาโนรามา แพ็กเกจนี้รวมเครื่องดื่ม 1 แก้วต่อท่าน (เลือกจากเมนูเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ) 11:30 น. เดินทางต่อไปยัง จุดชมวิวหยุนไหล จุดชมวิวที่โด่งดัง ในการชมทะเลหมอกหนาแน่น ซึ่งจะค่อย ๆ จางหาย และปรากฏใหม่ ทุก ๆ 20 นาที สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น พร้อมวิวพระอาทิตย์ ที่งดงามเกินบรรยาย 12:10 น. เยี่ยมชม หมู่บ้านสันติชล หมู่บ้านชาวจีนยูนนานอพยพ ชมสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมจีนยูนนาน ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี รับประทานอาหารกลางวัน สไตล์จีนยูนนาน อาทิ ขาหมูหมั่นโถว และชาอุ่น ๆ กิจกรรมภายในหมู่บ้าน: ขี่ม้าโล้ชิงช้าแบบดั้งเดิม ชิมชาอู่หลงสดใหม่จากไร่ ถ่ายภาพวิวไร่ชา ที่ลดหลั่นตามเนินเขาอย่างงดงาม 14:30 น. เดินทางสู่ น้ำตกหมอแปง (Mor Pang Waterfall) น้ำตกเล็ก ๆ ที่แสนสดชื่น มีน้ำใสสะอาด ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบเงียบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และถ่ายภาพสวย ๆ 15:00 น. แวะนมัสการที่ วัดน้ำฮู วัดเก่าแก่ที่มีความอัศจรรย์คือ "น้ำศักดิ์สิทธิ์" ไหลออกมาจากเศียรพระพุทธรูป อย่างต่อเนื่อง เป็นแหล่งศรัทธาของชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่มาเยือน 17:00 น. เช็คอินเข้าสู่รีสอร์ทสุดหรู ระดับ 5 ดาว The Riverie Siam Resort สัมผัสบรรยากาศการพักผ่อนสุดสบาย ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบและบริการระดับพรีเมียม 18:00 น. มัคคุเทศก์และคนขับรถพร้อมรับท่านที่รีสอร์ท เพื่อเดินทางไป รับประทานอาหารเย็นในเมืองปาย สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของ ถนนคนเดินปาย เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย หลังอาหารเย็น ท่านสามารถ เดินเล่นชิล ๆ บนถนนคนเดินปาย เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวเมืองปาย สัมผัสงานศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงสินค้าทำมือ อาหารพื้นเมือง และของที่ระลึกต่าง ๆ หมายเหตุ: ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เพราะ มีรถพร้อมคนขับ Stand By ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการทุกท่านอย่างเต็มที่ พักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางในวันถัดไป วันที่ 4: ปาย - เชียงใหม่ 06:00 น. ตื่นรับอรุณ ในบรรยากาศสุดสดชื่น ภายในรีสอร์ทที่ถูกโอบล้อมด้วย สวนดอกไม้เมืองหนาว อันงดงาม สายหมอกบาง ๆ กระจายปกคลุมทั่วบริเวณ สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า พร้อมเพลิดเพลิน กับกาแฟร้อนในมือ สำหรับใครที่ตื่นแต่เช้า 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท เติมพลัง สำหรับการเดินทางในวันนี้ 08:00 น. แม้จะอยากดื่มด่ำบรรยากาศ แสนสงบ ของรีสอร์ทต่อไป แต่เรายังมีจุดหมายใหม่ ที่น่าตื่นเต้นรออยู่ข้างหน้า ทำการเช็คเอาต์ออก จากรีสอร์ท 09:00 น. แวะเที่ยวชม กองแลน (ปายแคนยอน) สถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติ ลักษณะเป็นหน้าผา และหุบเขา ที่เกิดจากการกัดเซาะ ของน้ำและลม เพลิดเพลิน กับการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ และถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ อันสวยงามของปายจากมุมสูง 10:00 น. เดินทางต่อไปยัง สะพานบุญโขกู้โส้ สะพานไม้ไผ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อ ระหว่างหมู่บ้าน และใช้ในการบิณฑบาตของพระสงฆ์ เพลิดเพลินกับการเดิน ข้ามสะพานไม้ไผ่ ยาวนับกิโลเมตร ที่ทอดยาวผ่านทุ่งนาเขียวขจี สัมผัสกับวิถีชีวิตเรียบง่าย ของชุมชนในพื้นที่ 11:00 น. ผ่อนคลายร่างกายด้วยการแช่ตัวใน น้ำพุร้อนไทรงาม ธารน้ำแร่ธรรมชาติ ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อนจนเกินไป สไตล์ออนเซ็น น้ำแร่ที่นี่ ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า แต่ยังช่วยคลายความเครียด และเพิ่มความรู้สึกสดชื่น ให้กับร่างกาย 12:30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ลิ้มรสเมนูอาหารท้องถิ่น และอาหารไทยในบรรยากาศสบาย ๆ 13:30 น. ออกเดินทางต่อเพื่อไปยัง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง 14:30 น. แวะชมวิวที่ ดอยกิ่วลม จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของอุทยานฯ มองเห็นทิวทัศน์ ของภูเขาสลับซับซ้อน และทะเลหมอกในยามเช้า เพลิดเพลินกับทัศนียภาพ ของสวนดอกไม้เมืองหนาว และแนวป่าสีเขียว ที่ทอดยาวไกลสุดสายตา 15:30 น. เดินทางไปยัง โป่งเดือดป่าแป๋ แหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่มีน้ำพุร้อนพุ่งสูงที่สุดในประเทศไทย เดินเล่นบนสะพานไม้ ที่สร้างขึ้นสำหรับชมพื้นที่รอบ ๆ น้ำพุร้อน สัมผัสบรรยากาศอบอุ่น จากไอร้อน ที่ช่วยคลายความหนาวเย็น ของอากาศโดยรอบ 17:30 น. เช็คอินเข้าพักที่ Holiday Inn Chiang Mai โรงแรมระดับมาตรฐานสากล ที่ให้บริการห้องพักสะอาด สะดวกสบาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน หลังจากการเดินทาง ที่แสนสนุก 18:00 น. มัคคุเทศก์และคนขับรถ พร้อมรับท่านจากโรงแรม เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารเย็น แบบ ขันโตก เพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมือง แบบล้านนา พร้อมชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่สวยงาม ทั้งการฟ้อนรำ การแสดงดนตรี และการแสดงศิลปะ ของชนเผ่าท้องถิ่น หลังมื้อค่ำ ท่านสามารถ เดินเล่นถนนคนเดินเชียงใหม่ สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยร้านค้า งานฝีมือท้องถิ่น และอาหารพื้นเมือง ให้เลือกชิม เหมาะสำหรับการเลือกซื้อของฝาก หรือเก็บภาพบรรยากาศ แสนประทับใจ 20:00 น. เดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อเตรียมพร้อม สำหรับการเดินทาง ในวันถัดไป วันที่ 5: ทัวร์เชียงใหม่ 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เพื่อเติมพลัง สำหรับการเดินทาง ในวันสุดท้ายของทริป 08:00 น. ทำการเช็คเอาต์ออกจากโรงแรม เตรียมตัวเดินทางสู่ จุดหมายปลายทางสุดท้ายของทริป "ม่อนแจ่ม" 09:30 น. เดินทางถึง ม่อนแจ่ม เพลิดเพลินกับความงดงาม ของธรรมชาติบนยอดดอย ที่โอบล้อมด้วยทะเลหมอก และวิวทิวทัศน์ ของภูเขาสลับซับซ้อน สนุกกับกิจกรรมยอดฮิตอย่าง การขับรถแม้ว (รถโกคาร์ทพื้นเมือง) สนุกสนาน ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย เดินเล่นบน เส้นทางดอกไม้ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว หลากสีสัน สวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพ เก็บความประทับใจ 11:30 น. แวะเยี่ยมชม สวนองุ่นเอเดน เพลิดเพลิน กับทุ่งดอกไม้หลากหลายสีสัน และไร่องุ่น ที่เรียงรายอย่างสวยงาม สำรวจพื้นที่เกษตรกรรม และแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาว พร้อมเก็บภาพความประทับใจ ในมุมสวย ๆ 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ภายในสวนองุ่น ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารสดใหม่ จากวัตถุดิบท้องถิ่น 13:30 น. เดินทางไปยัง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ กับการเดินบน Canopy Walkway สะพานลอยฟ้า เหนือยอดไม้ที่ยาวที่สุดในเอเชีย ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ ของป่าไม้และธรรมชาติ จากมุมมองที่แตกต่าง เยี่ยมชม ศูนย์เพาะเลี้ยงพันธุ์ดอกไม้เมืองหนาว ที่รวบรวมพันธุ์ไม้หายาก จากทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ ความงดงามของพรรณไม้ และการถ่ายภาพ 16:00 น. แวะซื้อ ของฝากจากเชียงใหม่ เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น งานหัตถกรรม ผ้าไหม สินค้าทำมือ และของกินขึ้นชื่อ ของเชียงใหม่ เพื่อเป็นของฝาก ให้กับคนที่คุณรัก 17:00 น. เดินทางไปยัง สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ส่งท่านลูกค้าตรงเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบิน เพื่อความสะดวกในการเช็คอิน และจัดการสัมภาระ จบทริปอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมความทรงจำ แสนประทับใจตลอดการเดินทาง "การจะได้บางสิ่ง เรื่องเล่า ประสบการณ์ หรือสิ่งที่แตกต่างไปจากคนทั่วไปนั้น จุดที่ยากที่สุด คือการต้องยอมรับตัวเอง ว่าเป็น คนนอกคอก (Weird) แต่ความแปลกนั้นเอง จะพาคุณไปสู่เรื่องราว ที่ไม่เหมือนใคร และเมื่อคุณเล่าเรื่องเหล่านั้นออกไป มันจะไม่ใช่แค่เรื่องธรรมดา แต่มันคือเรื่องราวที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว"

ทุกอย่างถูกคัดเลือก อย่างพิถีพิถัน

รถสะอาดเอี่ยมอ่อง พร้อมคนขับมืออาชีพ ที่ผ่านการอบรม ด้านการดูแลลูกค้าอย่างดีเยี่ยม"

ท่านจะได้รับการบริการ จากทัวร์ไกด์ผู้รอบรู้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วย Service Mind คอยดูแลและให้บริการอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ Moment แรก ที่ท่านก้าวเท้าลงจากสนามบิน

• ต้อนรับอย่างอบอุ่น
• นำทัวร์อย่างใส่ใจ
• อธิบายข้อมูลท่องเที่ยวอย่างละเอียด
• ช่วยเหลือทุกเรื่องที่จำเป็น
• ขนสัมภาระเมื่อท่านต้องการ
• รับใช้ทุกภารกิจอย่างเต็มใจ

พร้อม Stand By ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉินใด ๆ ก็สามารถเรียกใช้บริการได้ทันที

เราจะอยู่เคียงข้างท่าน ทุกช่วงเวลา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการเดินทาง จนถึง Moment จบทริป เพื่อให้ทริปนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด สำหรับท่าน.

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา:“ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 26,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก 13,500 บาท/ท่าน (อายุ 3-10ขวบ)

ราคาแบบ Upper Class รวม

• หมดห่วง เรื่องต้องเสี่ยงปนกันคนอื่น "แพ็คเกจรวม รถ รับส่ง และเที่ยวทัวร์ แบบส่วนตัว"
• สะดวกสบาย กับที่ปรึกษา Trip ส่วนตัว "ทัวร์ไกด์ ประจำกลุ่ม" เรียกหาบริการได้ 24 ชั่วโมง
• ทุกเหตุฉุกเฉิน และความต้องการพิเศษ "รถพร้อมคนขับ Stand By 24 ชั่วโมง"
• ที่พักท่ามกลางธรรมชาติ และท่ามกลางสายหมอก สวยจนใจสะท้าน, "The Riverie Siam" 1 คืน
• ที่พักที่ติด Location "ต้องไป" และในคลาส 5 ดาวในคืนที่ต้องการสะดวกสบาย "Le Meridien เชียงใหม่ ไนท์บาซ่า. 1 คืน
• ไม่ต้องห่วงเรื่องมื้อหลัก "รวมอาหารให้ครบทุกมื้อ "
• ไม่มีค่าใช้จ่ายที่เหนือความคาดหมายเด็ดขาด "รวมค่าธรรมเนียม ค่าเข้าทุกแห่งในโปรแกรม"
• หมดห่วงทุกเรื่องในขณะที่เป็นนักท่องเที่ยว (ไม่ใช่คนไปเที่ยว) "รวมประกันภัย เต็มช่องทาง แบบนักท่องเที่ยว"

Le Meridien Chiang Mai Night Bazaar..

ทริปของเจซีทัวร์ ถูกออกแบบมา ในรูปแบบ Upper Class เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทาง ที่พิเศษอย่างแท้จริง สำหรับบุคคล ที่ให้ความสำคัญ กับโอกาส และเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือกลุ่ม Senior (สว.) ทุกองค์ประกอบของทริป ถูกคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ ของผู้เดินทาง ที่มองหาความหรูหรา และสะดวกสบาย ในทุกช่วงเวลา

รถที่ให้บริการ ได้รับการดูแลอย่างสะอาดเอี่ยม พร้อมด้วยคนขับ ที่มีความเป็นสุภาพชน ผ่านการอบรม ด้านการให้บริการระดับ Top Class เพื่อสร้างความมั่นใจ ในเรื่องความปลอดภัย และความสะดวกสบาย ตลอดการเดินทาง ส่วนที่พัก เราเลือกใช้ Le Méridien Hotel โรงแรมระดับ 4.5 ดาว ตั้งอยู่ในทำเลทอง ของเชียงใหม่ ใจกลางไนท์บาซาร์ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และเสน่ห์เฉพาะตัว เพื่อให้ทริปนี้ ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือประสบการณ์สุดพิเศษ ที่คุณจะจดจำ ไปตลอดชีวิต

Status หรือสถานะเป็นสิ่ง ปฏิสัมพัทธิ์

อาจกล่าวได้ว่า คำว่า "ดีที่สุด" เป็นเพียงสถานะเชิงนามธรรม ที่แตกต่างกันไป ตามมุมมองของแต่ละบุคคล เพราะสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับใครคนหนึ่ง อาจไม่ใช่สำหรับอีกคนหนึ่ง แต่สำหรับ "The Reverie Siam" รีสอร์ทหรูริมน้ำแห่งนี้ กลับเป็นข้อยกเว้น เพราะไม่ว่าจะมองจากมุมมองไหน หรือจากสายตาของใคร ความหมายของคำว่า "ดีที่สุด" ยังคงบรรจบกัน อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

นั่นคือเหตุผล ที่รีสอร์ทแห่งนี้ ได้รับการโหวตจากผู้เข้าพักในระดับ Upper Class ให้คะแนนสูงถึง 9.5 จาก 10 ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่เป็นเครื่องยืนยัน ถึงความยอดเยี่ยม ในทุกมิติ ทั้งการบริการ บรรยากาศ และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกใส่ใจอย่างประณีต

ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลว่า ทำไมแพ็คเกจ Upper Class ของเราจึงต้องเลือก The Reverie Siam เป็นที่พักสำหรับท่าน เพราะความพิเศษ ไม่ควรเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของทริป แต่ควรเป็นหัวใจสำคัญ ของทุกการเดินทาง

ที่พัก Location สวยที่สุด

ดอยหมอกดอกไม้ คือรีสอร์ท ที่โอบล้อมไปด้วย ความงดงามของธรรมชาติ ตั้งอยู่เต็มพื้นที่บนยอดดอย ตรงเชิงผาของ ดอยแม่สลอง ครอบครองแปลงที่ดิน ที่สวยที่สุดในพื้นที่ ทุก ๆ ตารางเมตร ถูกออกแบบและตกแต่ง อย่างพิถีพิถัน ราวกับภาพวาดที่มีชีวิต ไม่ว่าจะมองไปทางไหน สายตาก็จะได้พบ กับความงดงามที่แสนตราตรึง

รีสอร์ทแห่งนี้ เต็มไปด้วย สวนดอกไม้เมืองหนาว หลากหลายสายพันธุ์ ที่ถูกจัดวางอย่างลงตัว ในทุกมุม สร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยสีสัน ความสดชื่น และความรู้สึกผ่อนคลาย ที่ยากจะหาได้จากที่อื่น

มันอาจไม่ใช่ "สวนแห่งสวรรค์" สำหรับเหล่าเทวดา แต่ถ้าจะมีสถานที่ใดบนโลก ที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว ที่นี่แหละคือคำตอบ

Holiday Inn..เชียงใหม่

Holiday Inn คือแบรนด์ที่สื่อถึงความ "สะอาด สะดวก สบาย" อย่างแท้จริง แต่เหตุผลที่เราเลือก จัดที่พักแห่งนี้ ให้กับท่านลูกค้า ในคลาส Upper Class ไม่ได้หยุดอยู่แค่ คุณภาพของที่พักเพียงอย่างเดียว

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือการที่เราต้องการให้ท่าน ได้เปลี่ยนมุมมองของเชียงใหม่ จากแค่เมืองท่องเที่ยวธรรมดา ให้กลายเป็นเมือง ที่ท่านจะได้ พบ เห็น เข้าใจ และ สัมผัสกับความหลากหลาย ในทุกมิติ เพราะเชียงใหม่ ไม่ใช่แค่เมืองแห่งศิลปะวัฒนธรรม หรือธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ความทันสมัย และเสน่ห์ในทุกแง่มุม

Holiday Inn ตั้งอยู่ในทำเล ที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง คาเฟ่สุดเก๋ หรือวัดวาอารามสำคัญ ทุกอย่างอยู่ในระยะ ที่ท่านสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ท่านได้เห็นเชียงใหม่ ในมุมที่กว้างและลึกกว่าที่เคย

"นี่ต่างหาก… คือสิ่งที่สำคัญที่สุด" เพราะการเดินทาง ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่คือการได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click