Best First all
ทัวร์ น่าน 3 วัน 2 คืน..

เนิ่นนาน เรียบง่าย และหย่อนใจที่น่าน นี่คือแพ็คเกจพิเศษแห่งปี จากเจซีทัวร์ ที่เราตั้งใจออกแบบ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว ให้เป็นมากกว่าการพักผ่อน นี่คือประสบการณ์ ที่คัดสรรทุกอย่าง ไว้ในระดับ “Best First” สำหรับผู้ที่ต้องการความลงตัว ทั้งความสงบ ความสวยงาม และบริการที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน เส้นทางท่องเที่ยวทั้งหมด เน้นความผ่อนคลาย วิวทิวทัศน์ธรรมชาติ ที่สวยจับใจ การเดินทางที่ราบรื่น และการบริการที่ดูแลแบบใกล้ชิด ตลอดทั้งทริป

เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ ผู้บริหารระดับสูง หรือใครก็ตาม ที่คุณอยากมอบความพิเศษ ให้ในโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด วันครบรอบ หรือเป็นของขวัญ ขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ ทุกองค์ประกอบในแพ็คเกจนี้ ได้รับการตรวจสอบ และเลือกอย่างละเอียด ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว ระดับแลนด์มาร์ก ไกด์ที่ชำนาญและสุภาพ คนขับรถมืออาชีพ ที่พักระดับพรีเมียม สะอาด สะดวก สงบ อาหารพื้นเมือง ปรุงสดใหม่ทุกมื้อ และทีมงาน ที่พร้อมดูแลทุกความต้องการตลอดทริป แบบไม่ขาดตกบกพร่อง

แพ็คเกจ “Best First” เปิดให้จองแล้ววันนี้ รับรองจำนวนจำกัด เพื่อรักษาคุณภาพการบริการสูงสุด ทริปมีให้เลือก ทั้งแบบ 3 วัน 2 คืน และ 4 วัน 3 คืน เดินทางได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว และฤดูฝน ที่ธรรมชาติของน่าน งดงามเป็นพิเศษ หากคุณกำลังมองหา วิธีบอก “ขอบคุณ” หรือ “คุณมีความหมาย” กับใครสักคน ทริปนี้จะทำหน้าที่นั้นได้ อย่างสมบูรณ์ที่สุด

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

ถนนลอยฟ้า - สวยที่สุดในประเทศไทย

เส้นทางจากวัดก๋ง อำเภอปัว มุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยว ที่งดงามที่สุด ของจังหวัดน่าน ถนนเส้นนี้ โค้งเลี้ยวเป็นลายเลข 3 ตลอดทั้งสาย พาดผ่านสันเขาสูง จนเหมือนขับอยู่บนยอดดอย แนวถนน ทอดตัวอยู่เหนือระดับสายตา มองลงไปเห็นแนวภูเขาซ้อน สลับกันทั้งสองฝั่ง ราวกับภาพวาดธรรมชาติ ที่เคลื่อนไหว ทัศนียภาพตลอดทาง สวยจนต้องหยุดหายใจ เป็นช่วงเวลาที่กล้องถ่ายรูป จะทำงานหนักที่สุด และหัวใจจะรู้สึกเบาสบายที่สุด

เมื่อคุณนั่งอยู่บนรถ บนถนนเส้นนี้ ความรู้สึกเหมือน กำลังลอยอยู่กลางอากาศ จะค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ความเร่งรีบ ในชีวิตประจำวัน วิวพาโนรามา ที่โอบล้อมด้วยป่าเขา และไอหมอกในยามเช้า จะเปลี่ยนการเดินทางธรรมดา ให้กลายเป็นช่วงเวลา ที่น่าจดจำที่สุดในทริป ไม่ต้องปีนเขา ไม่ต้องออกแรง เพียงแค่นั่งแล้วปล่อยใจ ให้ไหลไปกับโค้งถนน... คุณจะ “ได้ฟีล” อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

หอศิลป์ริมน่าน "แน่นอนคนอายุสั้น แต่ศิลปะไม่มีวันตาย"

หอศิลป์ริมน่าน คือจุดหมายปลายทาง สำหรับผู้ที่หลงใหล ในงานศิลปะอย่างแท้จริง ที่นี่รวบรวมผลงาน จากศิลปินหลากหลายแขนง และแนวคิด ไม่ว่าจะเป็นจิตรกรรม ประติมากรรม หรือผลงานร่วมสมัย ที่สะท้อนมุมมองลึกซึ้ง ต่อชีวิตและธรรมชาติ ตั้งแต่ก้าวแรก ที่เดินเข้าสู่พื้นที่จัดแสดง คุณจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศสงบ ที่แฝงไว้ด้วยพลังสร้างสรรค์ บรรยากาศเงียบ ๆ เย็นสบาย ทำให้ทุกย่างก้าว ชวนให้หยุดพินิจ และเปิดใจรับแรงบันดาลใจ จากชิ้นงานตรงหน้า

การได้เดินชม ผลงานศิลปะที่นี่ ไม่ใช่แค่การ “ดู” แต่เป็นประสบการณ์ ที่คล้ายการได้ “บริโภคความงาม” อย่างลึกซึ้ง ทุกผลงาน เชิญชวนให้เราชะลอจังหวะชีวิต หยุดคิด และสัมผัสความรู้สึก ในแบบที่คำพูดอธิบายไม่ได้ เป็นช่วงเวลาที่จิตใจ ค่อย ๆ สงบลง และลอยตัวขึ้น เหมือนอยู่ในภวังค์ของศิลป์ อย่างแท้จริง

เส้นทางสู่ - เหนือดอยภูคา

จากบ่อเกลือ เส้นทางขากลับสู่วัดภูเก็ต อำเภอปัว คืออีกหนึ่งช่วงเวลาทอง ของการเดินทาง ที่เต็มไปด้วยจุดแวะชมวิว และธรรมชาติอันงดงาม ตลอดสาย ถนนสายนี้วกวน คล้ายวงแหวน แต่ทุกโค้ง คือของขวัญสายตา เริ่มตั้งแต่จุดชมวิว 1715 ที่สูงเท่าระดับความรู้สึก พร้อมรับลมหนาวและทะเลหมอกยามเช้า ต่อด้วยจุดชมวิวดอยภูคา ที่มองเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน สุดสายตา และยังผ่านร้านค้าของสหกรณ์ บนพื้นที่สูง ที่เต็มไปด้วยของดีเมืองเหนือ ไม่ว่าจะเป็นยอดชาชั้นดี ผลไม้สดตามฤดูกาล หรือผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ที่น่าซื้อกลับเป็นของฝาก

ตลอดเส้นทาง คุณจะได้สัมผัสป่าไม้ ที่ยังคงความสมบูรณ์แบบดั้งเดิม ในระดับที่เรียกได้ว่า "Agent Forest" หรือป่าดึกดำบรรพ์ ที่แทบไม่ถูกแตะต้องโดยมนุษย์ พร้อมแวะเข้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา หนึ่งในอัญมณีทางธรรมชาติ ของจังหวัดน่าน ที่อัดแน่นด้วยพันธุ์ไม้หายาก และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ให้ทั้งความรู้และความรู้สึก สดชื่น เย็นตา และลึกซึ้งในหัวใจ ทริปนี้จึงไม่ใช่แค่การเดินทางกลับ แต่เป็นการกลับออกจากธรรมชาติ อย่างเต็มอิ่ม

วัดบ่อแก้ว - "ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง"

คืนวันเพ็ญ ที่วัดบ่อแก้ว ไม่เหมือนที่ใด เพราะที่นี่มีเรื่องเล่าขาน ถึงดวงแก้วสุกสว่าง ที่ลอยขึ้นจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ให้ผู้ศรัทธาได้เห็น ด้วยตาเปล่า ปรากฏการณ์นี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องบังเอิญ แต่ถูกเล่าขานว่า เป็นความมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ความศักดิ์สิทธิ์ และพลังบางอย่าง ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ด้วยเหตุผลธรรมดา ทำให้สถานที่แห่งนี้ เป็นมากกว่าวัด มันคือจุดเชื่อมระหว่างศรัทธา และสิ่งลี้ลับ ที่สัมผัสได้จริง

จากเรื่องเล่าดังกล่าว วัดบ่อแก้วจึงถูกสร้างขึ้น อย่างวิจิตรตระการตา ทุกอาคาร ทุกองค์พระ ล้วนประดับด้วยแก้วเจียระนัย แวววาวราวกับราชวัง ในนิทาน เป็นงานศิลปะที่เปล่งแสง ทั้งกลางวันและกลางคืน วันนี้คุณจะได้เดินทาง มาถึงสถานที่แห่งนี้ เพื่อชมไม่ใช่แค่ความงาม แต่เพื่อสัมผัสพลังแห่งศรัทธา ที่ยังคงส่องสว่างอยู่เงียบ ๆ ในหุบเขาน่าน

บ่อเกลือ ภูมิปัญญา สืบทอดกว่า 800 ปี

บ่อเกลือโบราณ แห่งอำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน คือแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ทรงคุณค่า มากกว่าแค่สถานที่ท่องเที่ยว ที่นี่คือศูนย์กลางการผลิตเกลือสินเธาว์ จากน้ำแร่ใต้ดิน ที่สืบทอดต่อกันมานาน กว่า 800 ปี กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม เริ่มจากการนำน้ำเค็ม จากชั้นหินลึกขึ้นมาต้ม จนเหลือเพียงผลึกเกลือสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุธรรมชาติ มีคุณสมบัติทางสมุนไพร ช่วยขับพยาธิ และบำรุงสุขภาพ เมื่อบริโภคอย่างพอเหมาะ

ด้วยแพ็คเกจนี้ ท่านจะได้สัมผัส กระบวนการผลิตเกลืออย่างใกล้ชิด เรียนรู้ขั้นตอนที่แต่ละบ้าน ยังคงใช้แรงคน และภูมิปัญญาดั้งเดิม เป็นหัวใจหลัก ไม่ใช่เพียงการชม แต่เป็นการเข้าถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่ยังคงมีลมหายใจ ได้ลองลงมือทำ ลองชิม และเข้าใจว่าทำไมเกลือจากที่นี่ จึงมีคุณค่าทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ในเวลาเดียวกัน

วัดพระธาตุเขาน้อย น่าน ดอกสาละลังกา

บนยอดเขาน้อย จังหวัดน่าน คือหนึ่งในจุดชมวิว ที่สวยที่สุดของเมือง เมื่อขึ้นไปถึง ท่านจะพบพระพุทธรูปสีทองอร่าม ประดิษฐานเด่นเป็นสง่า ผินพระพักตร์ออกสู่เมืองน่านเบื้องล่าง ราวกับกำลังประทานพร ให้ชาวเมือง มีแต่ความร่มเย็น และความสุข บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ เย็นสบาย และสามารถมองเห็นวิวเมืองน่าน ได้กว้างถึง 180 องศา โดยเฉพาะยามเช้า หรือก่อนพระอาทิตย์ตก จะงดงามเป็นพิเศษจนกลายเป็น จุดที่ต้องแวะสำหรับทุกทริป

นอกจากพระพุทธรูป ยังมีพระธาตุเขาน้อย ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่ รูปแบบผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนา และมอญ สะท้อนรากวัฒนธรรม ที่ลึกซึ้งของภูมิภาค และที่นี่ยังมี “ต้นสาละลังกา” เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความเกี่ยวข้อง กับพระพุทธเจ้า เชื่อกันว่า ในวันที่พระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน ดอกสาละได้โปรยปรายลงมาอย่างสงบงาม การได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ จึงไม่ใช่แค่ชมวิว แต่คือการสัมผัสความสงบลึกซึ้ง ทั้งทางกายและใจ

วัดพระธาตุแช่แห้ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง คือศูนย์รวมแห่งศรัทธาของชาวน่าน มาหลายร้อยปี และเป็นหนึ่งในพระธาตุ ที่มีตำนานเก่าแก่ที่สุด ของเมืองน่าน ตามคำเล่าขาน พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมา ยังสถานที่แห่งนี้ และมีผู้ถวายลูกสมอแห้ง ซึ่งแข็งจนเสวยไม่ได้ พระองค์จึงทรงแช่ลงในน้ำ พร้อมตรัสว่า “ในอนาคต สถานที่นี้จะเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุของเรา” นั่นคือที่มา ของชื่อ “พระธาตุแช่แห้ง” ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กทางศาสนา ที่สำคัญของภาคเหนือ

องค์พระธาตุมีความงดงาม ตามศิลปะล้านนาแท้ๆ ห่มด้วยทองคำเปลวอร่ามตา โดดเด่นกลางลานวัดกว้างใหญ่ ศาสนสถานโดยรอบ รวมถึงวิหาร เจดีย์ และหอพระ ล้วนบ่งบอกถึงความศรัทธาอันลึกซึ้ง ของชาวน่าน ที่มีต่อพระพุทธศาสนา บรรยากาศของวัดเงียบสงบ ร่มเย็น เหมาะแก่การกราบไหว้ สักการะ และใช้เวลาทบทวนจิตใจ อย่างแท้จริง

ดอยเสมอดาว

จุดชมวิว "ดอยเสมอดาว" คือสถานที่ที่คุณ สามารถสัมผัสธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ทั้งด้วยสายตาและลมหายใจ ที่นี่มีทะเลหมอกหนาทึบ ที่พัดผ่านเข้ามาทุกๆ 20 นาที แล้วค่อยๆ จางให้เห็น ทัศนียภาพอันสวยงามเบื้องล่าง เทือกเขาเขียวขจี ลำธารที่คดเคี้ยว และผืนป่าที่ทอดตัวไกลสุดสายตา จากนั้นหมอก จะหวนกลับมาอีกครั้ง เหมือนธรรมชาติกำลังแสดงละครซ้ำ ในทุกฉากอย่างไม่มีเบื่อ เสน่ห์ของดอยเสมอดาว อยู่ที่จังหวะหมอกที่มาเป็นช่วงๆ แบบนี้ ทำให้แต่ละช่วงเวลาของการชมวิว มีความสดใหม่ และไม่เหมือนเดิม

ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สายตาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดรับ "ออกซิเจนบริสุทธิ์" ที่เต็มไปด้วยอิออนประจุลบ จากธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเช้า และหลังฝนตก อิออนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยกระตุ้นสมอง ซีกที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ลดความเครียด และยับยั้งการทำงานของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวเร่งความชรา ดังนั้นการได้มานั่งเงียบๆ สูดลมหายใจลึกๆ ที่ดอยเสมอดาว ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่มันคือการฟื้นฟูทั้งกาย และใจ จากภายในอย่างแท้จริง

วัดภูมินทร์ - Whisper of Love Picture

วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน ไม่ได้เป็นเพียงศาสนสถานเก่าแก่ แต่ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายระดับโลก ของนักท่องเที่ยวสายศิลปะ และวัฒนธรรม ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ที่งดงาม โดดเด่นด้วยการออกแบบวิหาร ทรงจตุรมุขหลังเดียวในประเทศไทย ตัวอาคารผสานความอ่อนช้อย ของล้านนา เข้ากับเอกลักษณ์ท้องถิ่น อย่างกลมกลืน แต่สิ่งที่ทำให้วัดนี้ โด่งดังไปไกลกว่านั้นคือ "จิตรกรรมฝาผนัง" อันวิจิตรงดงามในวิหารใหญ่

ภาพเขียนฝาผนังภายในวัด ถ่ายทอดเรื่องราวพุทธประวัติ วิถีชีวิตชาวน่าน และนิทานพื้นบ้าน ด้วยฝีแปรงที่ทั้งละเอียด ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอารมณ์ ลายเส้นมีชีวิต มีน้ำหนักของความรู้สึก เหมือนศิลปินสื่อสารตรงจากหัวใจสู่ผนัง โดยเฉพาะภาพ "กระซิบรักบันลือโลก" หรือ "ปู่ม่านย่าม่าน" กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก และความละเมียดละไม ของงานศิลป์แห่งล้านนา จนหลายสำนักศิลปะ เปรียบเทียบฝีมือกับงานระดับโลก ของปิกัสโซ่ ไม่ใช่เพราะเทคนิคคล้ายกัน แต่เพราะงานมี “จิตวิญญาณ” ที่เปล่งประกายได้ ในระดับเดียวกัน

วัดก๋ง - บ้านกับวัดผลัดกันช่วย.....

กลอน "วัดจะดี มีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บ้านและวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย..." ไม่ได้เป็นแค่คำคล้องจอง แต่สะท้อนแนวคิด การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล ระหว่างชุมชนกับศาสนา และถ้าจะเข้าใจความหมาย ของกลอนนี้อย่างลึกซึ้ง ต้องไปเยือน “วัดก๋ง” สถานที่ที่คำว่า “วัด” กับ “บ้าน” ไม่ได้แยกจากกัน แต่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว อย่างแท้จริง

วัดก๋ง คือศูนย์กลางของชุมชน ที่งดงามทั้งทางกายภาพ และจิตใจ ตัววัดโดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา ผสมที่ประณีต และสงบใจ ถัดจากวัดคือทุ่งนาของชาวบ้าน ที่ไม่เพียงแต่ใช้เพาะปลูก แต่ยังกลายเป็นพื้นที่ แสดงอัตลักษณ์ของท้องถิ่น ผ่านร้านขายของฝาก และสินค้าชุมชนที่ตั้งอยู่ใน “หมู่บ้านกลางทุ่ง” ซึ่งเชื่อมต่อทุกส่วนเข้าด้วยกัน ผ่านสะพานไม้ไผ่ ที่ทอดยาวจากวัดไปถึงบ้านทุกหลัง ภาพรวมที่ได้คือหมู่บ้านเล็กๆ ที่ผูกโยงศรัทธาเข้ากับวิถีชีวิต จนเกิดเป็น พลังสร้างความสุขแบบยั่งยืน ให้ทั้งคนในพื้นที่และผู้มาเยือน

จุดชมวิว กิ่วม่วง

บนจุดชมวิวกิ่งม่วง เส้นทางสายโรแมนติก ที่รู้จักกันในชื่อ “ถนนลอยฟ้า” คุณจะได้พบกับภาพพาโนรามา ของเทือกเขาสลับซับซ้อน ที่ทอดยาวสุดสายตา เส้นขอบฟ้า บรรจบกับยอดเขาเขียวชอุ่ม ในทุกทิศที่มองไป ไม่ว่าจะหันกล้องหรือหันใจ ก็เต็มไปด้วยความงาม ที่ยากจะลืม สายลมที่พัดผ่าน มีความเย็นเฉียบแบบธรรมชาติ ไม่เพียงแค่ให้ความสดชื่น แต่ยังนำพาออกซิเจนบริสุทธิ์ ที่เต็มไปด้วยอิออนประจุลบ มาเติมพลังให้ทั้งกายและใจ รู้สึกได้ทันที ว่าหัวใจผ่อนคลาย ความคิดปลอดโปร่ง ราวกับธรรมชาติกำลังบำบัดอยู่เงียบๆ

สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์นี้ พิเศษยิ่งขึ้น คือบริการสุดอบอุ่น จากทีม JC Tour ที่จัด Coffee List ให้เลือกกาแฟ แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ่เข้มๆ หรือลาเต้อุ่นๆ เสิร์ฟให้คุณได้จิบชิลๆ ท่ามกลางวิวหลักล้าน ราวกับได้ดื่มกาแฟ ผสมอากาศบริสุทธิ์ ช่วงเวลานั้นไม่ใช่แค่การชมวิว แต่เป็นการใช้ชีวิตอย่างเต็มอิ่ม ในฉากธรรมชาติที่ดีที่สุด ฉากหนึ่งของไทย

ดอยผาอุ้มชู....

"ผาอุ้มชู" หรือที่บางคนเรียกว่า "ผาชู้" หรือ "ผาชู" แม้ชื่อจะหลากหลาย แต่ทั้งหมด ล้วนหมายถึงจุดชมวิวเดียวกัน ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน สถานที่แห่งนี้คืออีกหนึ่งจุดไฮไลต์ ที่ควรค่าแก่การแวะชม ในทริปเดียวกัน โดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของทะเลหมอก และขอบฟ้าเหนือเทือกเขา

จากดอยเสมอดาว ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่นาที ก็จะถึง "ผาอุ้มชู" จุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอก ได้อย่างชัดเจนแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ ลมเย็น และเปิดมุมมองได้กว้างไกล เหมาะกับการถ่ายภาพ สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือเพียงแค่หยุดนิ่งเพื่อซึมซับธรรมชาติ และถ้าคุณมีเวลา อย่าลืมแวะไปยัง "ผาเชิดชู" ที่อยู่ใกล้กัน เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิว ที่มอบมุมมองอันตระการตาไม่แพ้กัน ทำให้ทริปนี้ ครบทั้งความประทับใจ จากดอยเสมอดาวถึงปลายผาแห่งความงาม

ซุ้มลีลาวดี ต้องที่ "น่าน" เท่านั้น

ทุกสิ่งบนโลกนี้ อาจมีหลายผู้สร้าง หลายรูปแบบ และปรากฏอยู่หลายที่ แต่ "ที่สุด" มักมีเพียงหนึ่งเดียว เหมือนกับ วงการดนตรีคลาสสิก ที่ยกย่อง Cannone 2 ของ Del Gesu ว่าเป็นไวโอลินที่เสียงลึก นุ่ม และทรงพลังที่สุดในโลก เป็นหนึ่งเดียว ที่ทุกคนต้องยอมรับ

ในทำนองเดียวกัน ถ้าพูดถึง “ซุ้มลีลาวดี” ที่มีอยู่ทั่วไปตามสวนสาธารณะ หรือวัดวาในไทย แม้จะสวยในแบบของมัน แต่หากจะหาซุ้มลีลาวดีที่งดงาม ครบถ้วนทุกต้น ทุกดอก ทุกแนว สมบูรณ์ทั้งรูปฟอร์มและบรรยากาศ ต้องยกให้ “ซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ น่าน” เพียงแห่งเดียว ซุ้มที่ทอดยาวเรียงกัน อย่างเป็นระเบียบ ใบสีเขียวเข้ม ตัดกับดอกสีขาวนวล บนฉากพื้นทางเดินโบราณ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ สร้างความรู้สึกสงบ งดงาม และมีเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นความงาม ที่ไม่ต้องแต่งเติม แต่สะกดสายตา ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

	โปรแกรม:
	วันที่ 1: สัมผัสแรกแห่งเมืองน่าน – ธรรมชาติ วัดวา และความผ่อนคลาย 08.00 น. ทีมทัวร์ไกด์ประจำกลุ่ม พร้อมทีมบริการและคนขับรถ จะรอต้อนรับท่านอย่างอบอุ่น ที่สนามบินน่าน – ไกด์แนะนำตัว และสรุปโปรแกรมโดยย่อ พร้อมถามไถ่ว่า "ท่านได้ทานอาหารเช้าหรือยัง?" – หากยังไม่ได้ทาน แวะเติมพลังกันก่อนที่ร้านอาหารเช้าชื่อดังประจำเมืองน่าน รสชาดกลมกล่อม เรียบง่ายแบบเมืองเหนือแท้ๆ 09.30 น. เดินทางสู่ วัดบ่อแก้ว วัดที่สร้างจากแก้วเจียระไนทั้งหลัง โดดเด่น สะดุดตา เปล่งประกายยามต้องแสง บรรยากาศภายในเงียบสงบ เหมาะแก่การเริ่มต้นวันด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์ในใจ 10.30 น. ชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ เสาดินนาน้อย และคอกเสือ – ประติมากรรมธรรมชาติที่ไม่เหมือนที่ใดในเมืองไทย – รูปทรงแปลกตาราวกับฝีมือมนุษย์ ทั้งที่เป็นผลงานของลม ฟ้า ฝน ล้วนๆ 11.00 น. ถึง ดอยเสมอดาว จุดชมวิวขึ้นชื่อของจังหวัดน่าน – ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะทะเลหมอกจะกลับมาทุกๆ 20 นาที 11.30 น. แวะ ดอยผาชู้ หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “ผาอุ้มชู” – อีกหนึ่งหน้าผาสูงที่ให้มุมมองต่างออกไป แต่ยังงดงามไม่แพ้กัน 12.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคารบ้านริมดอย – เมนูพื้นเมือง รสชาติกลมกล่อม บรรยากาศธรรมชาติรอบตัว ช่วยเติมพลังอย่างแท้จริง 14.30 น. เข้าสู่เขตศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดพระธาตุแช่แห้ง – พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน – เป็นหนึ่งในพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีเถาะ 15.30 น. เยี่ยมชม วัดภูมินทร์ – จิตรกรรมฝาผนังที่โด่งดังระดับโลก โดยเฉพาะภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” จากนั้นต่อที่ วัดมิ่งเมือง – วัดขาวบริสุทธิ์ โดดเด่นด้วยงานปูนปั้นอ่อนช้อยตามศิลปะล้านนา 17.00 น. Check-in เข้าที่พัก น่าน บูทีค รีสอร์ท – ที่พักระดับ Upper Class ท่ามกลางธรรมชาติ ที่พร้อมมอบความสบายสูงสุด 17.30 น. เดินทางขึ้นสู่ พระธาตุเขาน้อย – จุดชม Sunset เหนือเมืองน่านที่ไม่ควรพลาด – ช่วงเวลาที่เมืองน่านเปล่งแสงอ่อนละมุน งดงามชวนหลงใหล 18.30 น. รับประทานอาหารค่ำที่ ย่านถนนคนเดินเมืองน่าน – เพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมือง ของฝาก งานหัตถกรรม – ดนตรีสด ศิลปะ และชีวิตยามค่ำที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ปิดท้าย – ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เพราะรถพร้อมคนขับของเรา จะ Stand By ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง – คืนนี้...พักผ่อนให้เต็มอิ่ม เตรียมพร้อมสู่การผจญภัย ในวันถัดไป วันที่ 2: เส้นทางลอยฟ้า วิวกระชากใจ และหมู่บ้านกลางหุบเขา 07.00 น. เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่รีสอร์ท – แนะนำให้ทานให้อิ่ม เพราะวันนี้จะเป็นวันแห่งการเดินทางที่ยาว แต่คุ้มทุกนาที 08.00 น. ออกเดินทางออกจากตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าสู่ทางขึ้นเขา จุดหมายแรกคือ จุดชมวิวกิ่วม่วง 09.00 น. ถึง กิ่วม่วง – ถนนลอยฟ้าที่ตัดผ่านทิวเขา วิวสุดอลังการ – มองไปทางไหนก็เต็มตาด้วยภูเขาเขียว ท้องฟ้าใส และอากาศที่สดชื่นที่สุด – เจซีทัวร์ จัดให้แบบเต็มอิ่ม – เสิร์ฟกาแฟสด หรือเครื่องดื่มเย็น ให้จิบระหว่างซึมซับความงาม แบบ “กระชากใจ” อย่างแท้จริง 10.00 น. ชมความกลมกลืนระหว่างวัดและชุมชนที่ วัดก๋ง – วัดงามด้วยศิลปะล้านนาผสมผสาน และสะพานไม้ไผ่ที่เชื่อมต่อวัดกับ Bamboo Village กลางทุ่งนา – หมู่บ้านแห่งนี้มีทั้งของฝากและของที่ระลึกจากชาวบ้านตัวจริง 10.30 น. ขับต่อบนเส้นทาง ถนนลอยฟ้าหมายเลข 3 – โค้งคดเคี้ยวพาเราผ่านธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุดในภาคเหนือ – ระหว่างทางมีจุดให้แวะถ่ายรูปอีกหลายจุด รับรองรูปสวยแน่นทุกมุม 12.00 น. ถึง บ่อเกลือ – เยี่ยมชม บ่อเกลือโบราณ 5 บ่อ ซึ่งยังคงใช้งานจริงโดยชาวบ้าน – ร่วมพูดคุย เรียนรู้วิธีต้มเกลือแบบดั้งเดิม และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นคุณภาพดี 12.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวันที่ ภัตตาคารบ่อเกลือ – เสิร์ฟอาหารพื้นเมือง จากวัตถุดิบท้องถิ่น สดใหม่ถึงโต๊ะ 13.30 น. เดินทางต่อสู่ บ้านสปัน – สัมผัสเสน่ห์แม่น้ำสะปัน และหมู่บ้านกลางหุบเขา ที่เงียบสงบ อบอุ่น มีเสน่ห์ในแบบ Slow Life ที่แท้จริง 15.00 น. ถึง ดอยภูคา – ชม ต้นชมพูภูคา ที่หายาก และงดงามเฉพาะช่วงฤดูกาล – แวะที่ จุดชมวิว 1715 มองเห็นวิวทะเลหมอก และแนวภูเขาสลับซับซ้อน อย่างกว้างไกล 16.00 น. แวะที่ วัดภูเก็ต – วัดที่มองเห็นวิวทุ่งนาแบบพาโนราม่า – ด้านล่างมี โฮ่งนาไทยลื้อ แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม และงานฝีมือของชาวไทยลื้อ ดั้งเดิม 17.30 น. เดินทางกลับถึงรีสอร์ท – พักผ่อนตามอัธยาศัย เติมพลังหลังจากวันแห่งการเดินทาง 18.00 น. รับประทานอาหารเย็นในบรรยากาศสงบ สบาย พร้อมดื่มด่ำกับค่ำคืนของน่าน อีกหนึ่งคืน อย่างสมบูรณ์ วันที่ 3: วันแห่งความประทับใจ ส่งท้ายเมืองน่านแบบครบทุกมิติ 07.00 น. เริ่มต้นเช้าวันสุดท้ายของทริป ด้วยอาหารเช้าที่รีสอร์ท – รับอากาศยามเช้าเย็นสดชื่น เตรียมตัวเก็บเกี่ยวความทรงจำอีกครึ่งวันก่อนเดินทางกลับ   หลังอาหารเช้า เดินทางเข้าสู่เมืองน่าน – แวะเดินเล่นที่ ตลาดเช้าเมืองน่าน บรรยากาศอบอุ่น เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้คน และของกินพื้นเมือง ที่น่าลอง – จากนั้นแวะ ซุ้มลีลาวดี หน้าพิพิธภัณฑ์ฯ ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย – ซุ้มต้นลีลาวดีเรียงแนวกันอย่างเป็นระเบียบ ดอกไม้ ใบไม้สมบูรณ์ สร้างฉากหลัง ที่งดงามเกินจริง ต่อด้วยการชมศิลปะวัฒนธรรม – วัดพระธาตุช้างค้ำ ศิลปะเก่าแก่ลุ่มน้ำโขง – พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ไฮไลต์คือ “งาช้างดำ” วัตถุโบราณล้ำค่าหายากของจริง ที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก – แวะ วัดมิ่งเมือง และ หอหลักเมืองน่าน ที่อยู่ใกล้กัน สักการะเสาหลักเมือง และชมลวดลายปูนปั้น วิจิตรในอุโบสถขาวบริสุทธิ์ 12.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวันในเมืองน่าน – ร้านอร่อยในบรรยากาศชิลล์ ๆ เพื่อปิดท้ายด้วยความอิ่มอร่อย 14.00 น. ก่อนกลับ แวะชม หอศิลป์เมืองน่าน – จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย และงานจากศิลปินท้องถิ่น – ได้เห็นอีกแง่มุมของน่าน ในแบบที่ต่างออกไป แต่ยังงดงามไม่แพ้ธรรมชาติ 15.00 น. แวะร้านของฝาก – เลือกซื้อของดี ของอร่อยจากน่าน เช่น ข้าวซอยแห้ง ขนมพื้นบ้าน ผ้าทอ และของที่ระลึก ฝีมือชาวบ้าน 16.00 น. ทีมงานส่งท่านลูกค้าที่สนามบินน่าน – พร้อมความรู้สึกอิ่มเอมจากทุกสถานที่ ทุกมื้ออาหาร และทุกช่วงเวลา ที่ได้รับการดูแล อย่างใกล้ชิด ด้วยแพ็คเกจแบบ Best First All – Private Service ทุกเส้นทาง ทุกเวลา เราสามารถปรับให้เข้ากับจังหวะของท่าน เพราะเป้าหมายสูงสุดของเรา คือการที่ท่านเดินทางกลับ...พร้อมความสุขที่ “ไม่มีวันลืม”

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา: “ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 12,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก (แพ็คเกจนี้ เป็นทริปเน้น ศึกษา เรียนรู้ ชื่นชม บริโภคธรรมชาติ และงานศิลป ระดับสูง เด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่น่าจะมีความสุขกับการบริโภค ความรื่นรมย์ในระดับนี้ ไม่แนะนำ)

แพ็คเกจนี้รวม:

• รีสอร์ท ที่สะดวกสบาย อากาศดี ตกแต่งเยี่ยม สะอาดเอี่ยมที่สุดแห่งน่าน "Nan Boutique Resort and Spa"
• ท่องเที่ยว 3 วันเต็มในแบบ Upper Class ส่วนตัว
• ทัวร์ไกด์ บริการ นำเที่ยว อธิบาย และ Stand By 24 ชั่วโมง (เรียกได้ในทุกๆ เหตุด่วน)
• รถ พร้อมคนขับ รับ ส่ง นำเที่ยว และ Stand By 24 ชั่วโมง (เรีกยได้ในทุก ๆ เหตุด่วนไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
• อาหารครบทุกมื้อ
• ค่าธรรมเนียมเข้าพักทุกๆ ที่ในโปรแกรม
• ประกันภัยในแบบ "นักท่องเที่ยว"

น่าน บูทีค ยอดเยี่ยมที่สุด

น่าน ซีซั่น บูทีค รีสอร์ท คือหนึ่งในที่พัก ที่ถูกคัดสรรให้อยู่ในแพ็กเกจ ระดับ Upper Class อย่างภาคภูมิ ไม่ใช่แค่เพราะความหรูหรา แต่เพราะรายละเอียดเล็กๆ ทุกจุดถูกใส่ใจอย่างลึกซึ้ง ห้องพักสะอาดไร้ที่ติ ปราศจากฝุ่น กลิ่นอับ หรือความชื้น ทุกตารางนิ้วของรีสอร์ท สะท้อนความพิถีพิถันในการดูแล จนทำให้ผู้เข้าพัก สัมผัสได้ถึงความสุขตั้งแต่วินาทีแรก ที่ก้าวเข้าไป และกลายเป็นความประทับใจ ที่ยากจะลืม

รีสอร์ทตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองน่าน แต่กลับให้ความรู้สึก เหมือนหลุดเข้ามาในโลกอีกใบ รายล้อมด้วยทุ่งนา และป่าธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่สระว่ายน้ำ ลานพักกลางแจ้ง ห้องอาหาร บาร์ ไปจนถึงสวนที่จัดไว้อย่างร่มรื่น และงดงาม ทุกอย่างในที่นี่ถูกออกแบบให้รองรับ “การพักผ่อนอย่างแท้จริง” สัมผัสได้ครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ไม่ว่าจะเป็นความงามของธรรมชาติ อาหารพื้นเมืองรสละมุน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอากาศยามเย็น หรือเสียงธรรมชาติ ที่ขับกล่อมจิตใจ หลังจากกิจกรรมกลางวัน ที่อาจเหนื่อยล้า รีสอร์ทแห่งนี้จะกลายเป็นพื้นที่พักฟื้นร่างกาย และจิตใจที่ดีที่สุด คืนเดียว...ก็พอจะรู้ว่า ที่นี่คือคำจำกัดความของคำว่า “พักผ่อน”

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click