Real High: ปัว น่าน บ่อเกลือ สะปัน
3 วัน 2 คืน

ถึงจุดสูงสุดของความสุข… แค่คุณไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลา

ไม่ต้องปีนขึ้นยอดเขา ไม่ต้องพยายามอะไรจนเหนื่อยล้า แค่เดินทางไปยังสถานที่ที่ใช่ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างรอบตัว มอบความสุขให้คุณเอง แบบไม่ต้องฝืน นี่คือทริปที่ออกแบบมา เพื่อช่วงเวลาสำคัญที่สุดของคุณ พาไปยังพื้นที่พิเศษบนโลก ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่มีคุณค่าพอ ให้คุณจดจำไปอีกนาน

แพ็คเกจท่องเที่ยวแบบ Upper Class ที่เราภูมิใจนำเสนอ ไม่ใช่แค่เรื่องของจุดหมายปลายทาง ที่คัดเลือกมาอย่างดีเท่านั้น แต่คือประสบการณ์ที่เหนือกว่า แค่คำว่า “ยอดเยี่ยม” เพราะมันถูกออกแบบให้คุณ รู้สึกได้ถึงความต่าง ตั้งแต่ก้าวแรก ที่ออกเดินทาง

น่าน ปัว บ่อเกลือ และสะปัน เส้นทางนี้ไม่ใช่แค่ไปเที่ยว แต่คือการไปสัมผัสความ “สุขแท้” จากทั้งธรรมชาติที่เงียบสงบ และความใส่ใจ ในทุกการบริการ เราเชื่อว่า ความประทับใจ ไม่ต้องมีคำอธิบายมากก็รับรู้ได้ แต่เพื่อให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้น แนะนำให้อ่านรายละเอียด ของโปรแกรม และภาพไฮไลต์แบบไม่เร่งรีบ ก่อนตัดสินใจ

พร้อมหรือยังที่จะให้ “สถานที่” เป็นแรงบันดาลใจให้กับคุณบ้าง?

เพื่อให้การเดินทางของคุณ สมบูรณ์แบบที่สุด ขอแนะนำให้คุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาโปรแกรมทัวร์ ที่จัดสรรมาอย่างลงตัว ชมภาพ Highlight ที่คัดสรรมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และหากมีคำถามหรือข้อสงสัย สามารถ โทรสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ 089-5727603 หรือ แอดไลน์ @jctour ทีมงานของเราพร้อมดูแล และตอบทุกคำถาม เพื่อช่วยให้คุณมั่นใจ ในการตัดสินใจครั้งสำคัญ สำหรับการเดินทางที่ดีที่สุด

สะปัน Stop Dissonance

Dissonance คือความซับซ้อน ในสมองที่สร้างความอึดอัด โดยไม่รู้ตัว เป็นความรู้สึกที่ทำให้เรา ต้องการคำตอบทันที พอหาไม่ได้ ความคิดสร้างสรรค์ ก็เหมือนถูกดูดหายไป แพทย์หลายคนแนะนำว่า ทางแก้ไม่ใช่การคิดให้มากขึ้น แต่คือการหยุดคิด แล้วพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่เงียบ เรียบง่าย และงดงามอย่างแท้จริง

สะปัน คือคำตอบนั้น หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาในน่าน ที่มีทุกอย่างที่ช่วยปลดล็อก ความอึดอัดในใจ: ทุ่งนาสีเขียวขจี ภูเขาที่โอบล้อม แม่น้ำสายเล็ก ๆ หมอกขาวตลอดวัน และผู้คนที่ใจดีแบบไม่ต้องเสแสร้ง ทริปนี้จะพาคุณมาที่นี่ เพื่อให้ธรรมชาติ บำบัดสมองแทนยา และปล่อยให้ความสงบ ซึมลึกเข้าไปจนคุณรู้สึกได้ว่า Dissonance ที่เคยรบกวน... เงียบหายไปอย่างหมดจด

ถนนลอยฟ้า - สวยที่สุดในประเทศไทย

นี่คือเส้นทางในฝัน ของนักเดินทางสายสายตา ถนนที่ตัดผ่านจากวัดก๋งในอำเภอปัว มุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ ของจังหวัดน่าน เส้นทางคดเคี้ยว เป็นรูปเลข 3 ตลอดแนวดอยสูง เปิดมุมมองให้คุณเห็น ภูเขาลาดลงทั้งสองฝั่ง ราวกับขับรถอยู่บนสันฟ้า

วิวตรงหน้าไม่ใช่แค่สวย แต่ให้ความรู้สึกเหมือน หลุดเข้าไปอยู่ในฉากภาพยนตร์ ขณะนั่งอยู่ในรถ ทุกโค้งคือเฟรมใหม่ของธรรมชาติ ที่อลังการเกินบรรยาย รับรองว่าคุณจะ "get" อารมณ์นั้นเต็ม ๆ แบบไม่ต้องพยายาม

หอศิลป์ริมน่าน "แน่นอนคนอายุสั้น แต่ศิลปะไม่มีวันตาย"

“กลิ่นศิลป์”

“ที่นี่มันเงียบเกินไปหรือเปล่า?”
เสียงของโอ๊ตเอ่ยขึ้น ขณะก้าวขาเข้าไปในหอศิลป์ริมน่าน เขาเดินตามหลังมายด์ ที่กำลังยืนจ้องภาพจิตรกรรมฝาผนัง สีแดงจัดจ้าน

“ศิลปะมันไม่ต้องพูดเสียงดัง” เธอว่าเบาๆ โดยไม่หันกลับ
โอ๊ตไม่ตอบ เขาเพียงแค่เดินไปใกล้ ๆ แล้วมองรอบตัว ห้องจัดแสดงเต็มไปด้วยภาพ วัตถุ และผลงานจากหลายแขนง บางชิ้นดูเหมือนจะเข้าใจได้ง่าย บางชิ้นเหมือนพูดกับเขา เป็นภาษาที่เขาไม่รู้จัก

“แปลกดีแฮะ” โอ๊ตหยุดอยู่หน้าประติมากรรม ที่เหมือนเศษเหล็กบิดงอ
“อะไรแปลก?”
“ก็เราอยู่ในที่เงียบๆ แบบนี้ แต่ทำไมรู้สึกเหมือน มีเสียงตลอดเวลา”
มายด์หันมามองเขา “อืม… เสียงที่มาจากข้างในตัวเราเองมั้ง”

พวกเขาเดินชมงานต่อไปทีละชิ้น เหมือนการเดินผ่านบทสนทนาเงียบ ๆ ที่ไม่ต้องมีคำอธิบาย
โอ๊ตรู้สึกแปลกใจ ที่จิตใจเขา เริ่มสงบลงอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้สมองเขาวุ่นวาย เต็มไปด้วยคำถามเรื่องงาน เรื่องชีวิต และความสัมพันธ์ ที่กำลังแผ่วปลาย

“รู้ไหม” เขาพูดขึ้นเบาๆ ขณะมองภาพวาดเด็กชายยืนตากฝน
“อะไร?” มายด์ถาม
“ฉันไม่เข้าใจงานศิลปะเลยสักชิ้น แต่ฉันไม่อยากออกไปจากที่นี่เลย”

มายด์ยิ้ม แล้วพูดกลับโดยไม่มองหน้าเขา “นั่นแหละ... คุณเพิ่งเข้าใจงานศิลปะ ไปชิ้นหนึ่งแล้ว”

เส้นทางสู่ - เหนือดอยภูคา

จากบ่อเกลือ เส้นทางจะพาท่านโค้งกลับ เป็นวงแหวน ผ่านธรรมชาติระดับพรีเมียม ของจังหวัดน่าน ก่อนจะกลับไปยังวัดภูเก็ต แห่งอำเภอปัว ระหว่างทาง ท่านจะได้ชมวิว บนถนนลอยฟ้า จุดชมวิว 1715 และดอยภูคา ที่สามารถมองเห็นแนวเขา สลับซับซ้อนสุดสายตา ชวนให้หยุดหายใจชั่วขณะ แล้วเก็บภาพไว้ในความทรงจำ

ระหว่างเส้นทาง ยังมีร้านของสหกรณ์ที่ราบสูง ให้ท่านได้เลือกซื้อยอดชาชั้นดี ผลไม้สดจากสวน และของพื้นถิ่นจากชาวบ้านแท้ ๆ เส้นทางยังลัดเลาะ ผ่านผืนป่าที่สมบูรณ์ระดับ “Agent Forest” เขียวแน่น ราวกับยังไม่เคยถูกรบกวนจากมนุษย์ และแน่นอน ไฮไลต์อีกจุดคือ การแวะอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เพื่อให้ท่านได้สัมผัสทั้งธรรมชาติ ศิลปะของเวลา และความสงบจากป่าไม้ ในมิติที่ต่างไปจากเดิม ทั้งหมด

วัดบ่อแก้ว - "ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง"

ในคืนวันเพ็ญ เมื่อพระจันทร์เต็มดวง ทอแสงที่สุดบนท้องฟ้า ตำนานเล่าว่า... ดวงแก้วสุกปลั่ง จะลอยขึ้นจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ กลางวัด ให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาเปล่า ไม่ใช่เรื่องเล่าลอยๆ แต่เป็นประสบการณ์ ที่หลายคนยืนยันตรงกัน ว่านี่คือปรากฏการณ์แห่งความศรัทธา มหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับธรรมชาติ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ตกลงใจร่วมกันไว้

และด้วยพลังของดวงแก้วนั้น วัดบ่อแก้วจึงไม่เหมือนวัดใด ทุกสิ่งถูกออกแบบ และสร้างขึ้นด้วยแก้วเจียระนัย ที่งดงาม ราวกับหลุดมาจากวังสวรรค์ ทุกองค์พระ ทุกเจดีย์ ทุกรายละเอียดสะท้อนแสงวิบวับ ตัดกับความสงบของป่าเขา วันนี้... คุณจะได้เดินทาง มาถึงวัดแห่งนี้ วัดบ่อแก้ว และบางที คุณอาจจะได้เห็นดวงแก้วนั้น ด้วยตาตัวเอง

บ่อเกลือ ภูมิปัญญา สืบทอดกว่า 800 ปี

บ่อเกลือโบราณ คือสมบัติล้ำค่า ที่ธรรมชาติและมนุษย์ ร่วมกันสร้างขึ้นมากว่า 800 ปี ที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ผลิตเกลือ แต่คือแหล่งภูมิปัญญา ที่ถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น วิธีการดึงน้ำใต้ดินขึ้นมา ผ่านกระบวนการเคี่ยว คัดกรอง และระเหยอย่างพิถีพิถัน จนกลายเป็น เกลือสินเธาว์ภูเขาบริสุทธิ์ ที่ไม่เพียงเค็ม แต่ยังมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพร ใช้ขับพยาธิในลำไส้ และบำรุงสุขภาพ อย่างแท้จริง

ในทริปนี้ ท่านจะไม่เพียงแค่ได้ชม แต่จะได้สัมผัสและเรียนรู้ทุกขั้นตอน ด้วยตนเอง ตั้งแต่การตักน้ำเค็มใต้ดิน การจุดไฟหุงเคี่ยว ไปจนถึงการแยกเกลือ ด้วยเทคนิคดั้งเดิม เป็นโอกาสพิเศษ ที่หาไม่ได้จากการดูสารคดี หรืออ่านหนังสือ แต่ได้เรียนรู้ จากมือของชาวบ้าน จริง ๆ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิม ไว้จนน่าทึ่ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง

วัดพระธาตุแช่แห้ง ไม่ใช่แค่วัดเก่าแก่ แต่คือวัดในตำนาน ที่ย้อนกลับไปไกลยิ่งกว่าปี พ.ศ. เรื่องเล่าว่าพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมาถึงดินแดนแห่งนี้ ด้วยพระองค์เอง เรื่องราวทุกบทตอน จะถูกถ่ายทอดให้ท่าน ได้รับฟังจากมัคคุเทศก์ในวันทัวร์จริง พร้อมรายละเอียด ที่ยิ่งฟังยิ่งขนลุก

ภายในวัด สิ่งแรกที่ดึงสายตา คือองค์พระธาตุสีทองอร่าม ส่องประกายอยู่คู่กับองค์ดั้งเดิมขนาดเล็ก ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นหลักฐานของศรัทธา ที่ยืนยาวข้ามกาลเวลา ทุกก้าวที่เดินในวัดนี้ ไม่ได้มีแค่ความสงบ แต่เหมือนมีเสียง "บุญบรรเลง" อยู่ในหัวใจ ทำให้รู้สึกอิ่มลึก อย่างบอกไม่ถูก

ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว ไม่ได้เป็นเพียงจุดชมวิวธรรมดา แต่คือ “จุดพักฟื้นหัวใจ” ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่นี่คือ จุดรับออกซิเจนบริสุทธิ์ ที่อุดมด้วยอิออนประจุลบ สารล้ำค่าจากธรรมชาติ ที่ช่วยกระตุ้นสมองฝั่งสร้างสรรค์ และชะลอการทำงาน ของอนุมูลอิสระ ตัวการที่เร่งความชรา โดยตรง

ในทุก ๆ 20 นาที ทะเลหมอกหนา จะเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ ปกคลุมยอดดอย จนราวกับอยู่เหนือก้อนเมฆ จากนั้นจะค่อย ๆ จางลง เผยภาพมุมสูงของหุบเขา ป่าไม้ และสายน้ำด้านล่าง ที่สวยงามราวกับภาพวาด ก่อนที่ม่านหมอกลูกใหม่ จะลอยเข้ามาซ้ำอีกครั้ง วงจรที่สงบนิ่ง แต่น่าหลงใหล ไม่ต้องนั่งสมาธิ... ก็รู้สึกนิ่งได้เองที่นี่

วัดภูมินทร์ - Whisper of Love Picture.

วัดภูมินทร์ คือจุดเริ่มต้น ของการเดินทางสู่น่าน... และอาจเป็นจุดเริ่มต้น ของแรงบันดาลใจครั้งใหม่ ในชีวิตของใครหลายคน เพราะที่นี่ ไม่ใช่แค่วัดเก่าแก่ แต่เป็นศูนย์รวม ของศิลปะระดับโลก ที่แม้แต่ศิลปินจากหลากหลายประเทศ ยังต้องเดินทางมา สัมผัสด้วยตนเอง

ภายในวิหารทรงไทยล้านนา อันวิจิตร ประดิษฐานพระประธาน ที่งดงามเกินบรรยาย แต่ที่ทำให้วัดนี้ กลายเป็นตำนาน ในวงการศิลปะ คือจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่านย่าม่าน” และภาพอื่น ๆ ที่วาดอยู่โดยไม่ปรากฏชื่อศิลปิน ทว่าลายเส้น การเบลนด์สี และความสมดุล ระหว่างความตั้งใจ และการปล่อยวาง... กลับชวนให้นึกถึงผลงาน ของ “ปิกัสโซ่” อย่างประหลาด ถึงเวลาที่คุณจะไปดูด้วยตา ฟังด้วยใจ และตัดสินด้วยตัวเองว่า ภาพเหล่านั้น... มีชีวิตหรือไม่?

วัดก๋ง - ตื่นตาตื่นใจ

เรื่องเล่าจากสะพานไม้ไผ่: วัดกับบ้านที่ก๋ง

มีคนเคยบอกว่า “วัดจะดี มีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บ้านและวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย...” กลอนนี้ผมเคยได้ยิน ตอนเด็ก ๆ ยังไม่เข้าใจนัก จนกระทั่งได้มาเยือน “วัดก๋ง” ที่อำเภอปัวแห่งเมืองน่าน

วัดก๋งไม่ใช่แค่สถานที่ปฏิบัติธรรม แต่คือหัวใจของชุมชน ศิลปะล้านนาในวัด บรรจงอ่อนช้อยราวกับมีชีวิต ทุกองค์พระ ทุกลวดลายบนวิหาร ล้วนถูกสร้างขึ้น จากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่นี่เอง ถัดจากวัดออกไป มีทุ่งนาเขียวขจี ที่ไม่เพียงปลูกข้าว แต่ยังปลูกความผูกพัน ไว้ในทุกย่างก้าว เพราะทุ่งนานี้เชื่อมถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ผ่านสะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาว ร้อยวัดเข้ากับบ้าน เหมือนเส้นด้ายที่เย็บหัวใจของชุมชน ให้แน่นเข้า

บนสะพานไม้ไผ่นั้น นักท่องเที่ยวไม่ได้แค่เดินผ่านวิวสวย ๆ แต่ได้เดินผ่านชีวิตจริง ร้านของชาวบ้าน ของฝากท้องถิ่น รอยยิ้มของแม่ค้า และเด็ก ๆ ที่เล่นอยู่กลางลานนาข้างบ้าน เห็นภาพนี้ทีไร กลอนบทเก่าก็ลอยเข้ามาในหัวทุกที และครั้งนี้... ผมเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งแล้วจริง ๆ

จุดชมวิว กิ่วม่วง

บนจุดชมวิวกิ่งม่วง บนถนนลอยฟ้า ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากมาเยือน ท่านจะได้พบกับ วิวทิวเขาเขียวขจี ที่ทอดยาวสุดสายตา จนถึงเส้นขอบฟ้า ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหน ก็มีแต่ภาพที่เหมือนถูกจัดวางไว้ เพื่อความสุขของสายตา โดยเฉพาะ สายลมเย็นสะอาด พัดเข้ามาตลอดเวลา ออกซิเจนที่อัดแน่นไปด้วยอิออนประจุลบ ทำให้ร่างกายสดชื่น หัวใจเบิกบาน แบบที่รู้สึกได้ทันที

และในจังหวะที่ทุกอย่าง กำลังลงตัว ทีมงาน JC Tour ก็จะเสิร์ฟ Coffee List มาให้ท่านเลือกกาแฟแก้วโปรด ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แม้แต่บาทเดียว เพื่อให้การชมธรรมชาตินั้นครบทุกมิติ ได้ทั้งดื่มด่ำความงามรอบตัว และจิบกาแฟหอมกรุ่น ไปพร้อมกัน ณ จุดที่อากาศดีที่สุด แห่งหนึ่งของเมืองไทย

ดอยผาอุ้มชู สุดทางที่ปลายฟ้า

ผาอุ้มชู หรือที่บางท่านเรียกว่า ผาชู หรือ ผาชู้ ไม่ว่าจะเรียกชื่อไหน ก็หมายถึงจุดชมวิวเดียวกัน ที่อยู่ถัดจากดอยเสมอดาว ของจังหวัดน่าน เพียงไม่กี่นาทีจากกันเท่านั้น แต่ความงดงาม ของธรรมชาติที่รออยู่ กลับเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

หลังจากที่ได้ชมทะเลหมอกสุดอลังการ จากดอยเสมอดาวแล้ว จุดต่อไปที่ไม่ควรพลาดในทริปนี้ คือ “ดอยผาชู” หรือจะเรียกว่า “ผาเชิดชู” ก็ได้ เพราะที่นี่คือจุดชมวิว ที่ราวกับธรรมชาติ ยืนขึ้นยกมือเชียร์ท่านอยู่จริง ๆ วิวเปิดโล่ง เห็นผืนป่า ภูเขาสลับซับซ้อน และหมอกบางไหลเอื่อยอยู่เบื้องล่าง เป็นอีกหนึ่งมุมงดงาม ที่ทำให้การมาเยือนน่าน... ครบสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ซุ้มลีลาวดี ต้องที่ "น่าน" เท่านั้น

ซุ้มลีลาวดี แห่งนั้นไม่ได้ถูกจัดสวน ไม่ได้ถูกตัดแต่งด้วยมือมนุษย์ แต่ทุกลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ และดอกกลับโค้ง เรียง ประสานกันอย่างพอดี จนเหมือนภาพวาดของจิตรกร ผู้มากฝีมือ ทั้งที่จริงแล้ว... มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ความลงตัวของมัน ถูกเปรียบเทียบได้ กับไวโอลินตระกูลสตราดิวาเรี่ยน สมบูรณ์แบบจนเลียนแบบไม่ได้ ทุกครั้ง ที่แสงแดด ลอดผ่านใบลีลาวดี ลวดลายเงา จะทาบลงบนพื้นอย่างอ่อนโยน เหมือนธรรมชาติ กำลังบรรเลงบทเพลงเงียบ ๆ ให้ผู้ที่เดินผ่านได้รับรู้ ว่าความงามที่แท้จริง ไม่ต้องตกแต่ง... มันแค่อยู่ตรงนั้น อย่างพอเหมาะ พอดี และเป็นตัวของมันเอง

คอกเสือ-เสาดินนาน้อย - พื้นที่ Sculpture จากพระเจ้า

"ไม่มี Passion ใดๆ ไร้รูปแบบในทุกๆ มิติ และไม่มีเป้าหมาย ต่อการเกิดขึ้น" เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติล้วน ๆ และเปลี่ยนแปลง ไปได้ทุก ๆ วัน (ท่านที่เคยมาที่นี้ เมื่อเดือนก่อน กลับไปเดือนนี้ รูปทรงก็จะเปลี่ยนไป)

วัดพระธาตุเขาน้อย...

บนยอดเขาสูงที่เงียบสงบ แต่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธา แห่งเมืองน่าน ตั้งตระหง่านอยู่คือ พระพุทธรูปสีทองอร่าม ที่หันพระพักตร์ ออกสู่ตัวเมือง ราวกับกำลังประทานพรให้ลูกหลานชาวน่าน มีแต่ความสุข ความร่มเย็น ด้านล่างคือภาพเมืองน่าน ที่มองเห็นได้กว้างถึง 180 องศา เป็นวิวที่ทั้งงดงาม และอิ่มเอมในจิตใจ

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ยังมี พระธาตุเขาน้อย องค์เจดีย์ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนา และมอญได้อย่างงดงามกลมกลืน และที่พิเศษยิ่งกว่านั้นคือ ต้น สาละลังกา ที่ยืนอยู่ในบริเวณวัด ดอกของมันจะร่วงลงอย่างเงียบงาม สร้างภาพ Landscape ที่เปี่ยมด้วยความสงบ เป็นธรรมชาติที่รำลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน งดงามโดยไม่ต้องเอ่ยคำใด

โฮ่งนาไทยลื้อ ลำดวลผ้าทอ อยู่ติดกับวัดภูเก็ต

จากลานวัดภูเก็ต ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองลงไปเบื้องล่าง จะเห็นภาพงดงามราวกับภาพวาด หมู่บ้านเล็ก ๆ ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี มีสะพานไม้ไผ่ ทอดตัวคดโค้งเชื่อมพื้นที่ต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างอบอุ่นใจ เส้นทางนี้จะพาท่านเดินสู่ โฮ่งนาไทยลื้อ หรือขนำนาแบบไทยลื้อ ร้านค้าเล็ก ๆ ของชุมชน ที่เต็มไปด้วยของพื้นถิ่น น่ารัก ๆ และเสน่ห์ในแบบเรียบง่าย

เดินต่ออีกเพียงไม่กี่ก้าว ท่านจะมาถึง โรงงานผ้าทอมือ “ลำดวล” หนึ่งในจุดหมายดั้งเดิม ที่นักท่องเที่ยว ผู้หลงใหลงานฝีมือไม่ควรพลาด ที่นี่เปิดให้ชม กระบวนการทอผ้าแบบพื้นบ้าน ของชาวไทยลื้อ พร้อมสินค้าให้เลือกซื้อกลับ เป็นของฝากได้แบบจุใจ แม้จะเป็นสถานที่ Public ที่ใครก็มาได้... แต่ JC Tour เชื่อว่าการได้พาท่านมา “ถึงที่” ด้วยมุมมอง ที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ จะทำให้ประสบการณ์นี้อบอุ่น และลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

	โปรแกรม:
	วันที่ 1:   08:00 น. รับท่านจากสนามบินน่าน (เวลายืดหยุ่นตามเที่ยวบินของท่าน) ไกด์ส่วนตัวประจำกลุ่ม พร้อมทีมงานบริการและคนขับรถ รอต้อนรับ ณ จุดนัดหมาย พร้อมแนะนำตัว และจัดสัมภาระ ขึ้นรถตู้ส่วนตัว ที่สะอาด ปลอดภัย และพร้อมเดินทางทันที 09:30 น. ออกเดินทางสู่จุดหมายแรก ดอยเสมอดาว จุดชมวิวที่มีลักษณะพิเศษ ของทะเลหมอก หมุนเวียนทุก 20–30 นาที หมอกจะลอยขึ้นมาปิดวิวเขา และลำธาร ก่อนจะจางหาย เผยให้เห็นภูเขาสีเขียวอีกครั้ง บรรยากาศเปลี่ยนไปทั้งวัน แบบไม่มีเบื่อ เดินทางต่อขึ้นดอยสายลมปลายฟ้า เส้นทางอาจขรุขระเล็กน้อย แต่ปลายทางคือจุดชมวิว 360 องศา ที่งดงามจับใจ มองเห็นทิวเขา เรียงรายรอบด้าน เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ "Get real high" ที่ JC Tour ภูมิใจนำเสนอ 10:30 น. ชมความงดงามของ เสาดินนาน้อย และ คอกเสือ สองฝั่งของเนินเขา เต็มไปด้วยประติมากรรมธรรมชาติ ธรณีที่ถูกน้ำ และลมสลักขึ้นมา กลายเป็นงานศิลป์ ที่จินตนาการต่อได้ไม่รู้จบ 11:30 น. แวะ วัดบ่อแก้ว วัดแห่งความศรัทธาที่เกิดขึ้น จากเรื่องราวของลูกแก้วสุกปลั่ง ที่ลอยขึ้น จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในคืนเดือนมืด สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ นำไปสู่การก่อสร้างวัดที่งดงาม ด้วยแก้วเจียระนัย ทั้งหลัง เหมือนราชวังแก้ว ในจินตนาการ 12:00 น. เข้าสู่เขตเมืองน่าน ชม วัดพระธาตุแช่แห้ง วัดในตำนาน ยุคก่อนพุทธศักราช เชื่อว่าพระพุทธเจ้า เคยเสด็จมาที่นี่ องค์พระธาตุสีทองอร่ามตั้งสง่า รายล้อมด้วย ศาสนสถานวิจิตร งดงามจนหัวใจรู้สึก "บุญบรรเลง" ไปกับทุกย่างก้าว 13:00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ที่ร้านท้องถิ่นรสชาติดี กลางเมืองน่าน บรรยากาศเรียบง่าย สะอาด และอร่อย 14:00 น. เข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับรากเหง้าของชาวน่าน เผ่าพันธุ์ล้านนา และวัฒนธรรมชนเผ่าท้องถิ่น สิ่งของจัดแสดงหายาก รวมถึง “งาช้างดำ” ที่ยังคงเป็นปริศนา ที่ไม่มีคำตอบชัดเจน เดินต่อสู่ ซุ้มลีลาวดี อุโมงค์ต้นลีลาวดีที่กิ่ง ใบ ดอก เรียงตัวกัน อย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับงานศิลป์ ที่ไม่มีใครออกแบบ แต่กลับลงตัวเกินคำบรรยาย บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การถ่ายภาพ อย่างยิ่ง 15:30 น. เยี่ยมชม วัดมิ่งเมือง หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดขาว ของเมืองน่าน จุดเด่นคือ มหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์ และศาลหลักเมือง ที่มีสถาปัตยกรรมละเอียดอ่อน ประณีตงดงาม แบบล้านนาแท้ ต่อด้วย วัดภูมินทร์ วัดเอกแห่งน่าน จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวเชิงศิลป์ มีจิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่านย่าม่าน” อันโด่งดัง ที่ศิลปินทั่วโลก ต่างยอมรับว่าฝีมือของช่างล้านนา ในอดีตนั้น “แตะระดับโลก” ได้อย่างเหลือเชื่อ 17:00 น. ปิดท้ายวันแรกที่ วัดพระธาตุเขาน้อย จุดชมวิวเมืองน่านแบบพาโนรามา ที่องค์พระพุทธรูปสีทอง ปางประทานพร หันพระพักตร์ลงมา เหมือนกำลังให้พรแก่ชาวน่าน ด้านล่างคือเมืองทั้งเมือง ที่ส่องแสงอบอุ่น โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตก 18:00 น. Check-in เข้าพักที่ น่าน ซีซั่น บูทีค รีสอร์ท ที่พักท่ามกลางธรรมชาติ ริมน้ำ ล้อมรอบด้วยสวนดอกไม้ หมอกยามเช้า และสระว่ายน้ำ พร้อมห้องพักสะอาด สะดวกสบาย เป็นส่วนตัว 18:30 น. รับประทานอาหารค่ำ ที่ร้านอาหารชื่อดัง ของจังหวัด ติดถนนคนเดินเมืองน่าน อิ่มทั้งรสชาด และบรรยากาศ หลังอาหาร เดินเล่นบนถนนคนเดิน พบกับสินค้าท้องถิ่น งานฝีมือ อาหารพื้นบ้าน ขนม และการแสดงจากชาวบ้าน ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชาวน่าน ให้คุณได้สัมผัสใกล้ชิด หลังจากนั้น พักผ่อนตามอัธยาศัย รถตู้พร้อมคนขับส่วนตัวของท่าน Stand by ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งทริป วันที่ 2:   07:00 น. เริ่มเช้าวันใหม่ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และสายหมอกบาง ที่ปกคลุมทั่วพื้นที่ รับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ของธรรมชาติ ก่อนเตรียมตัวเดินทางต่อ 08:00 น. เช็กเอาท์ออกจากที่พัก น่าน ซีซั่น บูทีค รีสอร์ท 09:00 น. แวะชมศิลปะที่ หอศิลป์ริมน่าน สถานที่ที่รวบรวมงานศิลป์ หลากหลายแขนง จากศิลปินชั้นนำทั้งไทย และต่างประเทศ จัดแสดงอย่างเป็นหมวดหมู่ งดงาม และทรงพลัง ให้ท่านได้ "บริโภคศิลปะ" อย่างแท้จริง 10:00 น. เดินทางสู่ วัดภูเก็ต (ที่น่าน) วัดสวยที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองลงไป เห็นทุ่งนาเขียวขจีเบื้องล่าง ซึ่งเชื่อมต่อด้วยสะพานไม้ไผ่สู่ โฮ่งนาไทยลื้อ ร้านค้าชุมชน ที่จำหน่ายของท้องถิ่น แบบดั้งเดิม และยังมี โรงงานผ้าทอ “ลำดวน” จุดเด่นของหมู่บ้านไทยลื้อ ที่เปิดให้ชมการทอผ้า แบบพื้นเมือง พร้อมจำหน่ายผ้าทอมือคุณภาพดี ให้เลือกซื้อ 11:00 น. มุ่งหน้าสู่ วัดก๋ง วัดที่สะท้อนความผูกพัน ระหว่าง “บ้านกับวัด” ได้ชัดเจนที่สุด วิหารล้านนา สวยละเมียด ลานวัดเปิดโล่งให้สัมผัส กับวิถีชาวบ้านอย่างใกล้ชิด เดินต่อบนสะพานไม้ไผ่สู่ทุ่งนา และหมู่บ้าน ที่มีร้านค้าท้องถิ่น ขายของพื้นเมืองแท้ ไม่มีแบรนด์ ไม่มีบรรจุภัณฑ์ฟุ่มเฟือย มีเพียงเสน่ห์ของ “ของแท้” ที่ออกแบบโดยวิถีชีวิต 11:30 น. ขึ้นสู่ยอดดอย ดอยตีดู้ว์ ดอยสูงที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วไป จึงคงไว้ ซึ่งความเป็นธรรมชาติแท้ ๆ ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง และวิวทะเลหมอกสุดอลังการ มองเห็นแนวเขา และลำธารไหลคดเคี้ยวเบื้องล่าง ได้ฟีลลิ่งเหมือน สัมผัสหมอกได้ด้วยมือ 12:00 น. รับประทานอาหารกลางวันบนดอย พร้อมชมสวนดอกไม้ ไร่ชา ถ่ายภาพวิถีชีวิตของชาวเขา และเดินชมสินค้าแฮนด์เมด ที่วางขายแบบไม่เร่งรัด จะซื้อหรือไม่ซื้อ ให้หัวใจ Real Time ตัดสิน 15:00 น. เดินทางสู่ จุดชมวิวกิ่วม่วง หนึ่งในจุดชมวิว ที่ถูกยกให้เป็น “อันดับ 1 ไม่มีเบอร์สอง” ทัศนียภาพแบบพาโนราม่า เปิดกว้าง เห็นทั้งภูเขาและฟ้า สวยงามเกินคำบรรยาย มีลมเย็น อากาศบริสุทธิ์ และสายหมอกบาง ที่โอบล้อมทุกความรู้สึก ทีมงาน JC Tour จะเสิร์ฟ Drink List ให้ท่านเลือกดื่มคนละ 1 รายการตามชอบ (รวมในแพ็กเกจ) เพื่อเติมเต็ม ช่วงเวลาแห่งการชมวิว ให้พิเศษยิ่งขึ้น 17:30 น. มาที่ปัวก็ต้องพักริมนา เพราะคนปัวทำนำ เป็นหลัก น่านนิรันดร์ ชื่อของรีสอร์ท ที่มีความสะดวกสบายครบครัน และความสะอาดผ่านการตรวจเช็คคุณภาพ Top Hygiene แล้ว และถึงธรรมชาติทั้งนา แม่น้ำ และป่าไม้ เรือกสวน. 18:30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ รีสอร์ท จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย ท่ามกลางบรรยากาศ แสงยามเย็น และเสียงธรรมชาติรอบตัว เป็นอีกคืนที่ความเงียบ และงดงามทำหน้าที่เยียวยาใจ ได้อย่างสมบูรณ์ “ความผิดหวัง เป็นได้แค่วิญญาณ… เพราะตัวคุณ จะรู้สึกดีเกินกว่าที่คาดไว้” วันที่ 3:   06:00 น. เช้านี้อากาศเย็นจัด หมอกลงหนา จนแทบมองไม่เห็นทางข้างหน้า แต่ถ้าท่านคลำทาง ไปถึงจุดบริการเครื่องดื่มร้อน ๆ ได้สำเร็จ นั่นคือรางวัลของเช้านี้ เพราะไม่มีอะไร จะเติมเต็มความสดชื่น ได้มากไปกว่า การได้จิบอะไรอุ่น ๆ ท่ามกลางหมอกยามเช้า 07:00 น. รับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ยังโอบล้อมอยู่รอบตัว 08:00 น. เช็กเอาท์จากรีสอร์ท เก็บสัมภาระขึ้นรถ พร้อมเดินทางสู่เส้นทางไฮไลต์ ของวันนี้ ถนนลอยฟ้าน่าน 08:30 น. หยุดชมวิว และถ่ายภาพบน ถนนหมายเลข 3 ถนนเส้นนี้คดเคี้ยวเป็นรูปเลข 3 อย่างน่าประหลาด คล้ายถูกออกแบบมา ให้ล้อรถค่อย ๆ เลี้ยวผ่านทิวเขาอย่างจงใจ (ทั้งที่ไม่ใช่) วิวสองข้างทาง เปิดกว้าง เห็นภูเขาและป่า ที่สลับซับซ้อน แวะที่ The Golden Rock Curve โค้งหินทองคำสุดโด่งดัง โค้งถนนที่แทบหักกลาง ราวกับฟ้าผ่าลงมา พร้อมจุดชมวิวตรงข้าม ที่เห็นทิวเขา สลับดอกไม้ป่าเบื้องหน้า งดงามจนคำพูด ไม่อาจอธิบายได้ครบ 10:00 น. เดินทางถึง หมู่บ้านบ่อเกลือ ชมบ่อเกลือโบราณอายุกว่า 900 ปี ที่ยังคงใช้งานจริง มาจนถึงปัจจุบัน ท่านจะได้เห็นกระบวนการทำเกลือสินเธาว์ ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เกลือนี้ไม่เพียงใช้ปรุงอาหาร แต่ยังมีคุณสมบัติ ช่วยขับพยาธิ เป็นสมุนไพรธรรมชาติ ที่ทรงคุณค่า 11:00 น. เดินทางต่อขึ้นเขา สู่อีกหนึ่งหมู่บ้านลับ ที่เปี่ยมเสน่ห์ สะปัน หมู่บ้านกลางขุนเขาที่สะอาด สดใส และยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิม เอาไว้อย่างสมบูรณ์ เสน่ห์ของสะปัน อยู่ที่ความเรียบง่ายที่งดงาม เหมือนเจ้าหญิงวัย 16 ที่ยังไม่มีใคร มาทำให้ชีวิตซับซ้อน เดินข้าม สะพานไม้เหนือแม่น้ำว้า สูดอากาศที่เต็มไปด้วยอิออนประจุลบ ธาตุแห่งความสดชื่น ที่ช่วยปลุกสมอง ฝั่งสร้างสรรค์ให้เบ่งบาน อีกครั้ง 12:00 น. รับประทานอาหารเที่ยง ริมลำน้ำว้า ในบรรยากาศธรรมชาติสวยบริสุทธิ์ 13:00 น. เดินทางขึ้นสู่ จุดชมวิว 1715 จุดชมวิว บนระดับความสูง 1,715 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน และบางวัน ก็มีหมอกลอยต่ำ ราวกับภาพวาดธรรมชาติ ที่มีชีวิต 14:00 น. แวะ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา พื้นที่ป่าดึกดำบรรพ์ ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หายาก โดยเฉพาะดอกไม้ป่า ที่ผลิบานตามฤดูกาล เติมความละมุน ให้กับภาพธรรมชาติ ที่รายล้อม 16:00 น. เดินทางถึงสนามบินน่าน ล่วงหน้าก่อนเวลาบิน อย่างน้อย 2 ชั่วโมง (แนะนำให้ลูกค้า เลือกเที่ยวบินช่วงเย็น หรือค่ำ เพื่อการเดินทางที่ราบรื่น และไม่เร่งรีบ) ทีมไกด์ส่วนตัวของ JC Tour พร้อมผู้ช่วย และคนขับรถ Smart Driver จะกล่าวอำลา และอวยพรให้ท่าน เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ พร้อมความทรงจำดี ๆ ที่น่าน

รายละเอียดราคา

ที่ JC Tour เราทุ่มเท เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำที่สุด ให้กับลูกค้าทุกท่าน เราให้ความสำคัญ กับการจัดสรรเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้ดื่มด่ำ กับความงดงามของแต่ละจุดหมายปลายทาง พร้อมด้วยไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มอบข้อมูลเชิงลึก และบริการ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ดังนั้น ราคานี้จึงเป็นสำหรับ ทริปแบบส่วนตัวเท่านั้น
แนวทางนี้สะท้อนถึงปรัชญาของเรา: “ทุกช่วงเวลาของการเดินทาง ควรพิเศษกว่าวันธรรมดาเสมอ”

	ราคา
	ผู้ใหญ่ 16,500 บาท/ท่าน (Double Room) เด็ก 9,500 บาท/ท่าน (3-10 ปี)

แพ็คเกจนี้รวม:

• นำเที่ยวน่านแบบ Private ในคลาสที่เหนือกว่า 3 วันเต็ม
• การเข้าสู่สถานที่ พร้อมกิจกรรมในทริปทุกที่ ทุกประเภท
• ทัวร์ไกด์แบบ ส่วนตัว อธิบาย ให้ความเห็น ช่วยเหลือ ตลอด พร้อม Stand By 24 ชั่วโมง
• รถคันสะอาดเอี่ยม พร้อมคนขับ มารยาทเยี่ยม บริการนำเที่ยว และ Stand By 24 ชั่วโมง
• อาหารครบทุกมื้อ
• ที่พัก รีสอร์ทดีที่สุด แห่งเมืองน่าน 2 ที่แตกต่างใน 2 คืน (ปัว และ น่าน)
• ประกันภัย เต็มช่องทาง แบบ นักท่องเที่ยว (คุ้มครองเหนือกว่าคนไปเที่ยว)

น่าน ซีซั่น บูทีค

น่านซีซั่นบูทีค ถูกคัดเลือกให้เป็น ที่พักในแพ็คเกจ upper class ด้วยห้องพักที่ได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งสะอาดเอี่ยม ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่น ไร้ความชื้น และทุกๆ ตารางนิ้วของพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ถูกเอาใจใส่ ในทุก ๆ ตารางนิ้ว จนมั่นใจได้ว่า ท่านลูกค้าจะมีความสุข จนยากจะลืมเลือน..

น่าน ซีซั่น บูทิค รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองน่าน และซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บนพื้นที่ ที่ยังมีทุ่งนา ป่าสวย และถูกตกแต่งให้สวย ในทุกๆ ความสะดวกสบาย สระว่ายน้ำ ลานกลางแจ้ง ภัตตาคาร บาร์ ห้องพัก และสวนสวย ทำให้ได้พักจริง ๆ แบบสัมผัสครบทั้ง 4 (รูป รส กลิ่น เสียง) ทริปนี้ เรื่องเหนื่อยก็คงมีแน่ ใน Activity ในระหว่างวัน... แต่เมื่อถึงที่พัก ความเหนื่อยก็ระเหิดกลายเป็นไอ..

น่านนิรันดร์

รีสอร์ทสุดหรู คัดสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน สวยสุดเมืองปัว,น่าน รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ แต่ติดพื้นนาข้าวผืนใหญ่ กว้างสุดสายตา ทะเลกรีน สดชื่น ทุกๆ ส่วน และองค์ประกอบของรีสอร์ท เน้นความสะดวกสบาย ท่ามกลางธรรมชาติ ความงดงาม ของสิ่งแวดล้อมทั่วรีสอร์ท และห้องพักที่สะอาดเอี่ยม เมื่อท่านได้เข้าพัก จะทำให้ความผิดหวัง เป็นได้แค่วิญญาณ

---

ทำไมต้องเจซีทัวร์?

• เจซีทัวร์จดทะเบียนท่องเที่ยว หมายเลข..34/00235 (Inbound นำเที่ยวจากต่างประเทศ และทั่วประเทศไทย), 31/01235 (Outbound นำเที่ยวได้ทั่วโลก) บริษัทประกันภัย ต้องดูแลคุ้มครองทั่วโลก ที่ลูกค้าของเจซีทัวร์เดินทางไปถึง
• เจซีทัวร์ จดทะเบียน การพาณิชย์ อิเล็กโทรนิกส์ ถูกต้อง หมายเลข 0835557015003
• เจซีทัวร์ คือบริษัททัวร์ ที่ได้รับการรับรองจาก สมาชิก TripAdvisor ว่าเป็นบริษัทที่บริการดีที่สุดในโลกครับ.
• จริงหรือ? ทำไมจะไม่ลองอ่านดูครับว่า "ชาวโลกเขาพูดถึงเจซีทัวร์" ว่าอย่างไร? ต้องจ่ายค่าทัวร์ตั้งแพงนะ แนะนำอ่านเลยครับ!!! Click